ขายแพง..หายาก! พัฒนาการอำเภอสังคม จ.หนองคาย ร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน และอปท. พาชาวบ้านทำหน้ากากอนามัยผ้าใช้เอง เพื่อป้องกันเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 สามารถซักใช้ซ้ำได้

จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งขาดแคลนหน้ากากอนามัย และหาซื้อได้ยาก วันนี้ 3 เม.ย. 63 ที่ศาลาประชาคมบ้านโนนสว่าง หมู่ 4 ต.บ้านม่วง อ สังคม จ.หนองคาย นายณัฐภพ จำปา พัฒนาการอำเภอสังคม พร้อมด้วยผู้นำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านม่วง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสังคม และประชาชนในพื้นที่ ได้เสียสละเวลาในการทำหน้ากากอนามัยผ้าไว้ใช้เอง และแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันโรคโควิด-19

โดยเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สร้างแบบและตัดเย็บ หน้ากากอนามัยแบบผ้าไว้ใช้เอง ให้ประชาชนมารวมกลุ่มกันทำและแบ่งหน้าที่กันตามถนัด ซึ่งงบประมาณในการซื้อวัสดุอุปกรณ์ก็ได้มาจาก นายณัฐภพ จำปา พัฒนาการอำเภอสังคม สนับสนุนงบในการจัดซื้อ เพื่อใช้ในกิจกรรมในครั้งนี้

ขั้นตอนการทำหน้ากากอนามัยผ้าไม่ยุ่งยาก เริ่มจากเลือกผ้าสำหรับทำหน้ากากอนามัย เป็นผ้าที่มีเนื้อแน่น ไม่ระคายผิว เช่น ผ้าฝ้าย เลือกลายสวยงามตามใจชอบ ตัดตามแบบ กว้าง 7 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตร ตัดเพิ่มเผื่อส่วนโค้งจมูกและคาง ใช้อุปกรณ์ไม่กี่อย่าง คือ กรรไกรตัดผ้า เข็มเย็บผ้า ด้ายเย็บผ้า ไส้ไก่หรือยางยืดสำหรับทำที่เกี่ยวหู และเนื่องจากต้องใช้เวลาว่างในการทำหน้ากากอนามัยผ้า ก็จะสามารถผลิตได้ประมาณวันละ 150 ชิ้น เพื่อนำไปแจกให้กับประชาชนผู้ที่ต้องการใช้ พร้อมให้คำแนะนำก่อนใช้ให้ซักทำความสะอาด ผึ่งให้แห้งก่อน สามารถซักและนำมาใช้ซ้ำได้ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันและกันในยามวิกฤตในช่วงนี้

ส.ส.เอกธนัช สนับสนุนงบประมาณ 1 แสนบาท มอบ รพร.ท่าบ่อ นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รักษาผู้ป่วยโควิด-19

วันนี้ 2 เม.ย. 62 นายเอกธนัช อินทร์รอด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดหนองคาย พร้อมครอบครัว มอบเงินบริจาคจำนวน 100,000 บาท สนับสนุนโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อสนับสนุนงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 โดยมีนายแพทย์วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมรับมอบ

สำหรับสถานการณ์โรคโควิด 19 ของจังหวัดหนองคาย วันนี้ (2 ม.ย.)  ยอดผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 1 คน  ส่วนบุคคลใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ตรวจสอบแล้วไม่พบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน นอกจากนี้ผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคส่งตรวจหาเชื้อ 60 ราย ผลการตรวจไม่พบเชื้อ 58 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ 2 ราย ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและติดตาม 561 ราย อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง 126 ราย และผู้ที่เฝ้าระวังครบ 14 วันแล้วอาการปกติ 435 ราย

เซียนพนันเมืองท่าบ่อไม่กลัวโควิด และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เปิดบ่อนเล่นไพ่แต้มแดง กำลังฝ่ายปกครองลุยรวบผีพนัน 11 คน พร้อมของกลาง

วันนี้ 2 เม.ย. 63 นายทักษิณ สุวรรณศรี ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอท่าบ่อ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 9 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบเล่นการพนันไพ่แต้มแดง พบมีนักพนันชายหญิงหลายคนเล่นการพนันอยู่หลังบ้าน อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมายและ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ภายในบริเวณข้างบ้านเป็นอาคารโล่ง มีนักพนันชายหญิงล้อมวงเล่นไพ่แต้มแดง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว เจ้าหน้าที่จึงจู่โจมจับนักพนันพร้อมๆกัน ทำเอาเซียนพนันพากันตกใจถึงกับเหงื่อแตกพลั่กๆ สามารถรวบนักพนันได้จำนวน 11 คน พร้อมของกลางไพ่ป๊อก 1 สำหรับ เงินสดจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นพบว่านักพนันบางคนไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด โดยมีนางมงคล มณีรัตน์ อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ได้แสดงตัวเป็นผู้ดูแลจัดการวงไพ่แดง ตามของกลาง

เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจับกุมนางมงคล มณีรัตน์ เจ้าของสถานที่ พร้อมผู้ร่วมกระทำความผิดที่ร่วมกันเล่นการพนันไพ่(แดง)  และของกลางดังกล่าวข้างต้น โดยกล่าวหาว่า จัดให้มีการเล่นพนันไพ่(แดง) โดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ข้อกำหนดที่ 1 ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548  ในข้อ 5 การห้ามชุมนุม ผู้ถูกจับทราบข้อกล่าวหาแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหารับว่า ซึ่งผู้ถูกจับที่ 1 รับว่าตนเองได้จัดให้มีการเล่นการพนันไพ่(แดง) โดยไม่ได้รับอนุญาตจริง ผู้ถูกจับที่ 2-10 รับว่าร่วมกันเล่นการพนันไพ่(แดง) แล้วนำตัวผู้ถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

เดินหน้าต่อเนื่อง..เทศบาลเมืองท่าบ่อ จับมือโรงพักท่าบ่อ ปฏิบัติภารกิจทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามสถานที่เสี่ยง ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ

วันนี้ 2 เม.ย. 63 เวลา 14.30 น. ที่สี่แยกไฟแดงบ้านผือ เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยกองงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกองงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยการอำนวยการของนายประดับ สังฆะมณี ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ณัฎฐพนธ์ พะยอมใหม่ ผกก สภ.ท่าบ่อ ทำกิจกรรมรวมพลังสู้ภัย มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เจ้าหน้าตำรวจจราจร และนายพรชัย พรพิรุณโรจน์ หรือ สท.ชัย สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ นำรถสนามกอล์ฟฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้

โดยได้ร่วมกันลงพื้นที่ทำความสะอาด ฉีดยาฆ่าเชื้อจากสี่แยกบ้านผือ มุ่งหน้าแยกโยคี ผ่านหลังตลาดสดเทศบาลเมืองท่าบ่อ ผ่านหน้าวัดอำพวัน ต่อเนื่องถึงบริเวณถนนจรดลสวรรค์  พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียงจากรถจราจร สภ.ท่าบ่อ ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ และแนะนำประชาชนหมั่นทำความสะอาด ล้าง เช็ด ถู สถานที่ประกอบการ ร้านค้า ที่อยู่อาศัย ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส สร้างเมืองท่าบ่อให้น่าอยู่ ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19

สำหรับมาตรการการป้องได้กำหนดแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนเมษายน 2563 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ตามสถานที่เป้าหมายที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชุมชน สถานที่สาธารณะที่มีประชาชนสัญจรหนาแน่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองท่าบ่อและจังหวัด ให้กลับมาสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด

พัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย ทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563

วันที่ 1เม.ย. 63 เวลา 10.00 น. ที่ ศาลาหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมือง จ.หนองคาย  นายรณชัย  จิตรวิเศษ  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2563

นายไพโรจน์ โสภาพร พัฒนาการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน  ดำเนินการทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบท  ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เป็นประจำทุกปี โดยกรมพัฒนาชุมชนได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเด็ก ชนบทขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2522 เพื่อเป็นกองทุนในการช่วยเหลือเด็กก่อนวัยเรียน ที่ครอบครัวมีฐานะยากจนและด้อยโอกาสในชนบท ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาเด็ก เพื่อให้เด็กในชนบทได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึง กระทั่งปีพุทธศักราช 2536 กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระกรุณาธิคุณ รับกองทุนพัฒนาเด็กชนบทไว้ในพระราชูปถัมภ์  โดยพระราชทานพระราชานุญาต ให้ใช้ชื่อ  “กองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี”

ส่วนจังหวัดหนองคาย ได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเด็กชนบทขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ปัจจุบันมีเงินกองทุน จำนวน 2,557,854.62 บาท สำหรับการทอดผ้าป่าในครั้งนี้  มีผู้มีจิตศรัทธา หน่วยงาน  ส่วนราชการ ภาคเอกชน เครือข่ายผู้นำ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน  ร่วมบริจาคเงินทั้งสิ้น จำนวน 200,713 บาท.

จ.หนองคาย สั่งปิดสถานที่และกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่

วันที่ 1 เม.ย. 63 นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ลงนามในประกาศฉบับที่ 3/2563 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2563 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ให้ทุกอำเภอของจังหวัดหนองคาย สั่งปิดสถานที่ในพื้นที่เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ประกอบด้วย สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเด็กเล่น สนามชนไก่และสนามซ้อมชนไก่

ปิดสถานที่ชั่วคราว ตั้งแต่ 31 มีนาคม - 30 เมษายน 2563 ประกอบด้วย สถานศึกษาทุกระดับ  สถานบันกวดวิชา  ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม  สถานที่จัดนิทรรศการ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เว้นแต่ธนาคาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ร้านอาหาร (เฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น ร้านที่มีนั่งรับประทานเฉพาะบุคคล และงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) รวมทั้งสั่งปิดตลาด ตลาดนัด (ให้เปิดเฉพาะจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง  และอาหารสำเร็จเพื่อนำกลับไปบริโภคในพื้นที่อื่น ร้านที่มีนั่งรับประทานอาหารเฉพาะบุคคลและงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านขายอาหารสัตว์ ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ)

ปิดร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม (ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อนำกลับไปบริโภคในที่อื่น ร้านที่นั่งบริการเฉพาะบุคคลและงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านอาหาร เครื่องดื่มในโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรม) ปิดสถานบริการที่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติสภาบริการ พ.ศ. 2509 มาตร 3 ทุกแห่ง  ปิดสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ เช่น โรงเบียร์ ผับ บาร์ ร้านคาราโอเกะ หรือสถานที่มีอาหาร สุรา เครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายหรือให้บริการโดยจัดให้มีดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงหรือการแสดงดนตรี หรือการแสดงอื่นๆเพื่อการบันเทิง รวมทั้งสถานประกอบการที่มีบริการเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ฟิสเนส สถานที่นวดแผนโบราณที่อยู่ในอาคาร โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพทุกแห่ง สถานที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและ/หรือเกมส์ สถานที่ที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายหรือให้บริการที่ริมหาดแม่น้ำโขง สถานที่แสดงมหรสพ และสถานที่การแสดงหรือบันเทิงสาธารณะ

สถานที่ราชการงดให้บริการและให้บริการบางเรื่อง เพื่อลดความหนาแน่นของผู้รับบริการ ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม - 30 เมษายน 2563 ประกอบด้วย สำนักทะเบียนอำเภอ/ท้องถิ่นทุกแห่ง (ให้บริการเฉพาะประชาชนที่มีชื่อทะเบียนบ้านในเขตสำนักงานทะเบียนเท่านั้น) สำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย โดยปิดให้บริการด้านทะเบียนรถ ด้านใบอนุญาตขับรถและผู้ประจำรถ เว้นแต่การรับชำระภาษีรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 สำหรับรถขนส่งที่ครบกำหนดสิ้นงวดภาษีเดือน มีนาคม 2563 เท่านั้น, สำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย/สาขา/ส่วนแยก ทุกแห่งในท้องที่จังหวัดหนองคาย ปิดการให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินทุกประเภท เว้นแต่ธุรกรรมบางประเภทที่มีเงื่อนไขและเงื่อนเวลา เช่น การใช้สิทธิคัดค้านนิติกรรมระหว่างประกาศ (มรดก, ใบแทน, ขาย, ให้, จำนอง), การใช้สิทธิคัดค้านการออกโฉนดที่ดิน, การคัดค้านแนวเขตกรณีสอบเขต แบ่งแยก รวมโฉนดที่ดิน เป็นต้น, การไถ่ถอนจากการขายฝากที่จะครบกำหนด และการอายัดที่ดิน รวมทั้งการให้บริการเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้  มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายต่อคู่กรณีหรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ให้หัวหน้าหน่วยพิจารณาดำเนิน

ทั้งนี้ มาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ให้ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ ในสสถานที่ที่ประชาชนใช้บริการ เช่น สถานที่ราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ศาสนสถาน ห้างสรรพสินค้า(เฉพาะในส่วนที่ยังได้รับอนุญาตให้เปิดบริการ) โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร โดยให้เจ้าของสถานที่คัดกรองอุณภูมิบุคคลก่อนเข้าอาคาร จัดให้มีเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน การจัดที่นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นผิวในการสัมผัส สำหรับสถานประกอบการประเภท ตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ให้พนักงานหรือผู้ค้าต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย และให้งดกิจกรรมที่มีการในการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก ได้แก่ เรือนจำ โรงเรียน และการศึกษาดูงาน หากมีการเคลื่อนย้ายคน ต้องมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เช่น การตรวจคัดกรองคนก่อนเคลื่อนย้าย รวมถึงจำกัดการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าว นับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม - 30 เมษายน 2563 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ทำตามประกาศดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

อบจ.หนองคาย เดินสายมอบชุด PPE และอุปกรณ์ป้องกันเชื้อ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ สู้ภัยไวรัสโควิด-19

วันนี้ 1 เม.ย. 63 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายกยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย ได้มอบหมายให้ ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายก อบจ.หนองคาย พร้อมด้วยสมาชิกสภาจังหวัดหนองคาย ในการมอบมอบชุดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาล และสาธารณสุขอำเภอ เช่น ชุด PPE. ชุดปกป้องเชื้อโรค ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ 100 ชุด, โรงพยาบาลสังคม 25 ชุด, โรงพยาบาลโพธิ์ตาก 30 ชุด และโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ 30 ชุด

นอกจากนี้ ยังได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ รพ.สต ทั้งจังหวัด โดยผ่านสาธารณสุขอำเภอ เช่น แอลกอฮอล์ เข้มข้น 75% ,ชุด PPE ป้องกันเชื้อโรค, รองเท้าบู๊ทยาง, แว่นกันเชื้อโรค, เสื้อกันฝนสำหรับผู้ใหญ่, ถุงมือยาง และปรอทวัดไข้ชนิดหลอดแก้ว ในการดำเนินการเฝ้าระวังการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือเชื้อโควิด-19 ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน

สำหรับสถานการณ์โรคโควิด 19 ของจังหวัดหนองคาย วันนี้ (1 ม.ย.)  ยอดผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 1 คน อาการทั่วไปดี มีไอเล็กน้อย ส่วนบุคคลใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ตรวจสอบแล้วไม่พบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน นอกจากนี้ผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคส่งตรวจหาเชื้อ 57 ราย ผลการตรวจไม่พบเชื้อ 57 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ 0 ราย ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและติดตาม 548 ราย อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง 143 ราย และผู้ที่เฝ้าระวังครบ 14 วันแล้วอาการปกติ 405 ราย