นายอำเภอท่าบ่อและกิ่งกาชาด ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่ 3 ตำบล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

วันที่ 9 พ.ค. 63 นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่ และสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนในพื้นที่ตำบลน้ำโมง ตำบลโคกคอน และตำบลนาข่า พร้อมมอบถุงยังชีพของกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากกรณีพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ในเบื้องต้น โดยจะเร่งให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านตามระเบียบของทางราชการต่อไป

สำหรับอำเภอท่าบ่อ พื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ (วาตภัย) เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 รวมทั้งสิ้น 5 ตำบล 19 หมู่บ้าน เสียหายรวม 223 หลังคาเรือน ทั้งนี้ก่อนที่จะมีการมอบถุงยังชีพ ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ อสม. ออกมาทำการตรวจคัดกรอง ประชาชนที่เข้ามารับมอบถุงยังชีพ ทุกคน โดยมีการวัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแฮลกอฮอล์ มีการเว้นระยะห่างเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ในพื้นที่ ตามระเบียบของทางสาธารณะสุขจังหวัดหนองคาย อย่างเคร่งครัด

บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ จำนวน 1,000 ลิตร แก่เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย เพื่อร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19

     
ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นางรัชนี  ภัยธิราช รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย นางทัศนาวัลย์ วิริยานภาภรณ์และนางปกิตตา มุลสุวรรณ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมรับมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ จำนวน 1,000 ลิตร จาก นายวสันต์  สุขเกษม ,นายสุรชัย กุลธินี ,นายพศินทัศน์ คลังเงินภักดีกุล และนายเศกสิทธิ์ อินธิศักดิ์ ตัวแทน บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานของเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคายเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ซึ่งทางเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย จะได้นำแอลกอฮอล์ที่ได้รับครั้งนี้ ไปบรรจุขวดแจกจ่ายให้กับประชาชนต่อไป

ส.ส.เพื่อไทยและท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบพายุถล่มอำเภอท่าบ่อ บ้านเรือน 242 ครอบครัวหลังคาปลิว ยุ้งฉางข้าวเสียหาย

วันที่ 8 พ.ค. 63 นายเอกธนัช อินทร์รอด ส.ส.หนองคายเขต 3 พรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ  รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 6 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลท่าบ่อ, ตำบลกองนาง, ตำบลน้ำโมง, ตำบลโคกคอน, ตำบลนาข่า และตำบลโพนสา รวม 242 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีเสียหนักจำนวน 6 หลังคาเรือน และยุ้งฉางข้าวหลังคาเปิด ของนางระเบียบ มากมูล อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 บ้านโคกสว่าง หมู่ 2 ตำบลนาข่า ทำให้ข้าวเปลือกเปียกฝนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดย ส.ส.เอกธนัช อินทร์รอด ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบหนัก พร้อมให้กำลังใจครอบครัวที่ประสบเหตุภัยพิบัติในครั้งนี้

สำหรับการช่วยเหลือนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งช่วยเหลือโดยด่วน ตามระเบียบการช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่หลังคาเปิดทางหน่วยงานในพื้นที่ได้จัดเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซม เพราะอาจจะมีฝนตกลงมาซ้ำอีก

มาอีกรอบ! พายุถล่มอำเภอท่าบ่อ บ้านเรือนเสียหายหนัก ต้นไม้หักโค่น ทำให้คุณยายวัย 74 หวิดตาย ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ

วันที่ 7 พ.ค. 63 เวลา 16.00 น. เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ทำให้ฝนตกหนักและลมกระโชกแรง จนทำให้สิ่งก่อสร้างบ้านเรือนเสียหาย  และต้นไม้หักโค่น โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านโพนพระ หมู่ 1 และหมู่ 2 ตำบลโคกคอน อำเภอท่าบ่อ ถูกพายุพัดถล่มครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว พบว่าบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ถูกลมพายุพัดหลังคาซึ่งส่วนใหญ่เป็นสังกะสีหลุดปลิวออกจากตัวบ้าน กำแพงบ้านพังถล่ม

คุณยายกาสี สายนุช อายุ  74 กล่าวด้วยอาการตื่นกลัวว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งอยู่ในบ้านและมีฝนตกลมพัดมาเล็กน้อย จากนั้นก็หยุดไป ไม่นานอยู่ๆก็มีเสียงลมพัดและฝนกระหน่ำมาอย่างแรง หอบเอาหลังบ้านเปิดหลุดลอยออกไปเป็นแถบ นอกจากนี้แรงลมยังพัดเอาฝุ่น ดิน ใบไม้เข้ามาในบ้าน ทำให้ทุกอย่างเสียหาย น่ากลัวมาก หลังจากนั้นตนก็ไม่รู้สึกตัว ไม่รู้ว่าสลบอยู่ หรือทำอะไรอยู่ มารู้สึกตัวอีกทีก็เห็นลูกชายเข้ามาอุ้มตนหนีออกจากบ้านไปอยู่บ้านญาติที่อยู่ใกล้กัน

ส่วนนายปรี ฝั่งซ้าย อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของคุณยายกาสี เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังอยู่หน้าบ้าน พอหลังคาหลุดออกจากบ้านเท่าหละ ก็เห็นร่างของแม่ถูกแรงลมพัดกระเด็นไปตกบนที่นอน แล้วแม่ก็นั่งพนมมือไหว้และร้องให้อยู่ ตนเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปอุ้มร่างแกออกมา ความรู้สึกตอนนั้นบอกเลยว่ากลัวมาก กลัวแม่จะตาย เพราะแกสั่นไปทั้งตัว บอกเลยว่าน่ากลัวจริงๆ และเมื่อพายุสงบ ก็ได้เข้ามาเดินสำรวจรอบๆบ้าน พบว่าหลังคาบ้านหลุดออกไปหมด กำแพงบ้านก็พัง ภายในบ้านทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ที่นอน และอื่นๆ เปียกน้ำฝนได้รับความเสียหายหมด บอกเลยว่าพึ่งเคยเจอพายุที่น่ากลัวและรุณแรงแบบนี้

นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า ในพื้นที่ตำบลโพนสา ตำบลน้ำโมง ถูกฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้สิ่งก่อสร้างและบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือนเช่นกัน รวมทั้งโรงปลูกผักออร์แกนิก ของแม่โจ้ไฮโดรฟาร์ม พื้นที่เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ถูกลมพัดปลิวว่อน และต้นไม้ในที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ หักโค่นหลายต้น โดยขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางช่วยเหลือตามระเบียบของท้องถิ่นและจังหวัด ต่อไป

เสียงเตือนจากชาวสวน อย่าเพิ่งรีบซื้อทุเรียนที่ขายโลละ 160-170 เพราะรับมาแค่โลละ 45-50 เอง

มีผู้ใช้เฟสบุ๊กท่านหนึงได้กล่าวว่า “อย่าเพิ่งรีบซื้อกินนะครับ ทุเรียนที่ขายโล 160-170 ตอนนี้ รู้ป่าวว่า รับราคาส่งมาแค่โล 45-50 เอง พ่อค้าคนกลางหน้าเลือด รออีก 1-2 เดือนข้างหน้า

เมื่อเปิดด่านอิสระ (ขอย้ำนะ กูหมายถึง ทุเรียนทางใต้ ออกอีก เดือน 2 เดือนข้างหน้า น่ะจ๊ะ ไม่ใช่ให้รอกินทุเรียนที่ขายขูดเลือดตอนนี้นะ ) ทุเรียนทางใต้ใจดี ขายไม่แพง คนใต้น่ารัก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คอยดูนะครับ ตกโล 40-50 บาท ราคาปลีก หาซื้อได้ง่าย ทุเรียนล้นตลาด ล้าน % ครับ ปีนี้”