เหล่ากาชาดจังหนองคาย รพ.หนองคาย สนง.สาธารณสุขอำเภอโพธิ์ตาก ร่วมกับปกครองอำเภอโพธิ์ตาก ออกรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ เพื่อสำรองเลือดไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

วันที่ 24 พ.ย.63 ที่หอประชุมอำเภอโพธิ์ตาก จ.หนองคาย สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย โรงพยาบาลหนองคาย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอโพธิ์ตาก ร่วมกับปกครองอำเภอโพธิ์ตาก ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่  โดยมีนายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอโพธิ์ตาก ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและร่วมบริจาคโลหิต มีพันเอกปวริศ บริบูรณ์ รองผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ข้าราชการ ตำรวจ ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชนและนักเรียน ร่วมบริจาคโลหิตที่ผ่านการคัดกรองแล้วจำนวน 66 คน สามารถสำรองเลือดได้ 19,600 ซีซี

สำหรับการออกหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ครั้งนี้ เพื่อสำรองเลือดไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ในยามฉุกเฉิน เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มความต้องการโลหิตมีประมาณเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเลือดที่หายาก  สนง.เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย จึงขอเชิญชวนประชาชนมาช่วยกันบริจาคโลหิต เพื่อให้มีเลือดเพียงพอในการรักษาชีวิตของผู้ป่วยตลอดไป

ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี ตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ ขนข้ามโขง กว่า 8.2 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 4 ร้อยล้านบาท

วันที่ 23 พ.ย. 63 ที่วัดศิลาเลข หมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.อ.ณรงค์ สวนแก้ว รอง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.อ.มงคล หอทอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ป.ป.ส.ภาค 4, พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.เวียงคุก, พ.ต.อ.ธนรัตน์ รุ่งโรจน์ดี ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงการตรวจยึดยาบ้า 21 กระสอบ รวม 8,290,000 เม็ด มูลค่า 414,500,000 บาท

พ.อ.ณรงค์ สวนแก้ว รอง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีช่องทาง/ท่าข้ามธรรมชาติหลายจุด มีโครงข่ายเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ตอนในหลายเส้นทางในการลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตามแนวชายแดนยังคงต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด

ล่าสุด เจ้าหน้าที่หมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามายังพื้นที่ ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย จึงประสานหน่วยงานข้างเคียงทำการตรวจสอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 22 พ.ย.63 ขณะที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอยู่ได้พบเรือหางยาวแล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้านตามแม่น้ำโขง และเข้าเทียบจุดจอดเรือบ้านนาเหล่า หมู่ 1 ต.เวียงคุก จากนั้นมีชายฉกรรจ์ 7-8 คน ช่วยกันขนกระสอบจากเรือมาวางไว้ริมแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ กลุ่มชายฉกรรจ์รีบกระโดดขึ้นเรือขับหลบหนีไป 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ซุ่มรอดูอยู่จนเช้า จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นกระสอบ 21 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้าห่อกระดาษสีน้ำตาลแน่นหนา จึงได้ทำการตรวจยึดไว้และตรวจนับได้รวม 8,290,000 เม็ด จึงทำการตรวจยึดอย่างละเอียด ก่อนนำส่งของกลางทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน สภ.เวียงคุก ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้กล่าวว่า นับเป็นการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในพื้นที่ จ.หนองคาย แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง ดังนั้นขอให้ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ตามแนวชายแดน เฝ้าระวัง เป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อช่วยกันเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ลดน้อยลง

38 ปีหวนคืนเจ้าของ! "มีนา เลโซ่ ไม่ใช่ โมนาลิซ่า" ภาพเขียนสีน้ำมันชิ้นแรกของครูแดง บ้านศิลป์ไทย ขณะที่กำลังศึกษาอยู่วิทยาลัยครูอุดรฯ

"มีนา เลโซ่ ไม่ใช่ โมนาลิซ่า" ภาพเขียนที่บรรยายจากความรู้สึกต่อหญิงสาวที่ชื่อ "มีนา" ของนายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูแดง บ้านศิลป์ไทย) เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยครูอุดรธานี จากวันนั้น ถึงวันนี้ยาวนานถึง 38 ปี ที่ภาพเขียน"มีนา เลโซ่ ไม่ใช่ โมนาลิซ่า" ได้หายไป ในวันที่ร่องรอยความทรงจำในอดีตที่ผ่านเลยไปแล้วจนลืมเลือน จู่ๆ ก็ย้อนกลับคืนสู่เจ้าของภาพอีกครั้ง

ครูแดง บ้านศิลป์ไทย เปิดเผยว่า "มีนา เลโซ่ ไม่ใช่ โมนาลิซ่า" เป็นภาพเขียนสีน้ำมันชิ้นแรกที่เขียนในชั่วโมงเรียน ขณะเป็นนักศึกษาเอกศิลปศึกษา วิทยาลัยครูอุดรธานี ราวปี 2525 ซึ่งคนที่อยู่ในภาพเขียนเป็นเพื่อนที่เรียนเรียนอยู่ด้วยกันชื่อว่า "มีนา" จึงตั้งชื่อภาพว่า  "มีนา เลโซ่ ไม่ใช่ โมนาลิซ่า" หลังเขียนเสร็จได้ร่วมแสดงนิทรรศการ "ศิลปะสัญจร" ที่วิทยาลัยครูอุดรธานี หลังจากนั้นได้ส่งเข้าประกวดที่กรุงเทพฯ และภาพได้หายไปกว่า 30 ปี กระทั่งเมื่อตันเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากคุณฐิติกร พฤฒิศวลิกร อยู่ที่กรุงเทพฯ และได้ส่งภาพกลับคืนมาให้ ซึ่งเป็นช่วงที่แสดงนิทรรศการ "ศิลปะกลางทุ่งนา" พอดี จึงได้นำภาพมาติดตั้งร่วมแสดง

ด้านนายฐิติกร พฤฒิศวลิกร ผู้ที่เก็บภาพไว้และส่งคืน กล่าวว่า ภาพนี้ผมได้มาโดยบังเอิญ เมื่อผมดูข้างหลังภาพมีชื่อ-สกุลเจ้าของภาพ และมีคำบรรยายภาพ ผมอ่านด้านหลังแล้วว่ามันเป็นอะไรที่คู่ควรกับอาจารย์จริงๆ ครับ ภาพนี้ถ้าอยู่กับผมก็เป็นเพียงแค่รูปที่อยู่บนฝาผนัง แต่ถ้าได้กลับไปอยู่บนคัทเอาท์ที่บ้านอาจารย์ มันจะให้ความรู้กับคนอื่นๆ ได้อีกมากมายครับ ผมจึงติดต่อเจ้าของและส่งภาพคืนครับ.

ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย จัดนิทรรศการ "ศิลปะกลางทุ่งนา" นำศิลปะชั้นครูมาจัดแสดงกลางทุ่งนา ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและสวนเศรษฐกิจพอเพียง

วันที่ 20 พ.ย. 63 ที่บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูแดง บ้านศิลป์ไทย) ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิบป์ไทย จ.หนองคาย พร้อมศิลปินชั้นครู จัดงานนิทรรศการ "ศิลปะกลางทุ่งนา" โดยมี ผศ.วิรัตน์ ไม้เจริญ ผู้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสภวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) จ.หนองคาย เป็นประธานเปิดงานฯ และมอบภาพวาดระบายสี ชื่อว่า "พญานาคราช" ที่ ผศ.วิรัตน์ ไม้เจริญ นำน้ำจากบ่อน้ำที่คำชะโนด จ.อุดรธานี มาเป็นส่วนผสมสีอะคริลิคของการวาดภาพ มอบให้แก่ผู้ที่ประมูลได้

ในงานมีการแห่ขบวนแขกรับเชิญ ร่วมเปิดป้ายนิทรรศการฯ และพาเดินชมผลงานศิลปะชั้นครู ที่นำผลงานศิลปะมาจัดแสดงบนพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแกลเลอรีห้องสี่เหลี่ยม แต่เป็นแปลงผัก ร่องสวน นาข้าว ภายในบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ซึ่งครูแดง บ้านศิลป์ไทย ได้จัดการพื้นที่ 19 ไร่เศษ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในการหลอมรวมหลายๆ สิ่งอย่างเอาไว้ด้วยกัน ทั้งการเกษตร สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ ตลอดจน วิถีชีวิต อัตลักษณ์ชุมชน ควบคู่กับงานศิลปะ ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ครูแดง บ้านศิลป์ไทย กล่าวว่า ศิลปะเป็นศาสตร์แห่งความงามที่มีคุณค่าของความงดงาม ผลงานของมนุษย์ที่มีจุดมุ่งหมายการสร้างสรรค์และแสดงออกถึงความงาม เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านจิตใจของมนุษย์ ให้มนุษย์มีอารมณ์เพลิดเพลิน ร่าเริง แจ่มใส มีความสุขแห่งชีวิตอย่างแท้จริง อำเภอท่าบ่อร่วมกับบ้านศิลป์ไทยได้มองเห็นความสำคัญของศิลปะและวัฒธรรมของชุมชนเพื่อชุมชน  จึงจัดแสดงนิทรรการ "ศิลปะกลางทุ่งนา" ขึ้นในระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2563 เพื่อให้เด็กและเยาวชน รวมถึงผู้ที่สนใจได้เยี่ยมชมนิทรรศการศิลปะ จิตรกรรมกลางทุ่งนา ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและสวนเศรษฐกิจพอเพียง  เกษตรศิลป์ มีทั้งเกษตรและศิลปะที่บูรณาการกันอย่างลงตัว

การจัดนิทรรศการนั้นส่วนใหญ่จะใช้สถานที่ในการจัดแสดงในห้อง ในโรงแรม ในโรงเรียน ในหอศิลป์และในอาคารต่างๆ แต่งานนี้จัดแสดงกลางทุ่งนา ให้ผู้สนใจงานศิลปะในชุมชนได้เข้าถึงผลงานศิลปะและวัฒนธรรมที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ซึ่งมีจิตรกรรมที่หลากหลายรูปแบบจากครู- อาจารย์ ที่มีผลงานฝีมือชั้นครูและศิลปินผู้มีใจรักงานศิลปะ  รวมถึงผลงานอันบริสุทธิ์ของเด็กและเยาวชนอีกด้วย