วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

รพร.ท่าบ่อ จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันเกิดของผู้ก่อกำเนิดวิชาชีพการพยาบาล ภายใต้คำขวัญ Our Nurses. Our Future. "พยาบาลของเรา อนาคตของพวกเรา"

วันที่ 12 พ.ค. 2566 เวลา 08.30 น. ณ ห้องรับรอง SMC โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พญ.ฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันพยาบาลสากล ประจำปี 2566 (International Nurses Day) เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของผู้ก่อกำเนิดวิชาชีพการพยาบาล และให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่มีผลกระทบต่อประชาชน




นางบุญช่วย เคหฐาน หัวหน้าพยาบาล กล่าวว่า สภาพยาบาลระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพพยาบาลระดับโลก ได้กำหนดให้วันที่ 12 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันพยาบาลสากล นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 เป็นต้นมา ซึ่งในวันนีัเป็นวันคล้ายวันเกิดของ "มิสฟลอเนซ์ไนติงเกล" ผู้ก่อกำเนิดวิชาชีพการพยาบาล เพื่อเป็นการสดุดีคุณงามความดี ที่ได้ทำประโยชน์อย่างมากมายให้แก่ประชาชน ท่านได้สร้างต้นแบบอันดีงามให้พยาบาลทั่วโลกได้ยึดถือและปฏิบัติงานด้วยหลักวิชาการที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้เจ็บไข้ได้ป่วยในทุกๆ ด้าน รวมทั้งยังเป็นผู้ทุ่มเทในการบำเพ็ญประโยชน์แก่สาธารณชน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ในปีนี้สภาพยาบาลระหว่างประเทศ ได้กำหนดคำขวัญสำหรับวันพยาบาลสากล ปี 2566 นี้ว่า Our Nurses. Our Future. "พยาบาลของเรา อนาคตของพวกเรา"





โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริหารองค์กรพยาบาล ผู้บริหารสถาบันทางการพยาบาล และพยาบาลระดับปฏิบัติการ ในทุกภาคส่วนได้ร่วมกันรวมพลังสร้างและมุ่งสู่วิสัยทัศน์ ที่นำไปสู่การดูแลสุขภาพในอนาคต เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวม ตลอดจนการสร้างคุณค่าในงานการพยาบาล และการสร้างเครือข่ายกับสาขาวิชาชีพอื่นๆ จนเกิดความสำเร็จในความเข้มแข็งของระบบสุขภาพที่ยั่งยืน อันจะเป็นแนวทางในการกำหนดและวางแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ต่อไป




สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วยการมอบเกียรติบัตรบุคคลต้นแบบ ประเภทพยาบาลในหน่วยงานบุคลากรอื่นในหน่วยงาน เพื่อเป็นการยกย่อง สร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน , การจัดนิทรรศการวันพยาบาลสากล และการบริจาคสิ่งของเพื่อหารายได้ให้โรงพยาบาล ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคารหลวงพ่อจันมี โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมประมาณ 200 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและประชาชนทั่วไป







วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

กองทัพไทย ระดมกำลังช่วยรื้อถอนบ้านไฟไหม้ 4 หลัง หนองคาย-กองบัญชาการกองทัพไทย โดย นพค.25 สพภ.2 นทพ. ระดมกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน พร้อมเครื่องจักรเข้ารื้อถอนบ้านที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด 4 หลัง พื้นที่ อ.ศรีเชียงใหม่

วันที่11 พ.ค.2566 ที่ชุมชนวัดสุมงคล ริมถนนเส้นริมแม่น้ำโขง หมู่ 3 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พันเอกณัฏฐาภูมิ  นิกร ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังชุดปฏิบัติงานช่าง ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว และกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน จำนวน 12 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ รถขุดตัก 1 คัน และ รยบ.เทท้าย 10 ล้อ 2 คัน เข้าทำการรื้อถอนบ้านเรือน รวมทั้งเก็บซากปรักหักพังช่วยเหลือชาวบ้าน 4 ครัวเรือน ที่บ้านถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด เมื่อเวลา 23.30 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา รวมทั้งทรัพย์สินมีค่า และสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายด้วย ทำให้ราษฎรทั้ง 4 ครอบครัว รวมกว่า 10 ชีวิต ต้องไร้ที่อยู่อาศัยต้องไปขออาศัยอยู่ตามบ้านญาติเป็นที่อาศัย และหลับนอนชั่วคราวแทน


โดยหลังจากทำการเก็บรื้อเศษซากบ้านที่ถูกไฟไหม้เสียหายแล้วเสร็จ ทาง นพค.25 จะร่วมกับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ จะเร่งทำการสร้างบ้านเรือนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้มีที่พักอาศัยโดยเร็ว เพราะขณะนี้ต้องไปอาศัยบ้านญาติอยู่ชั่วคราวก่อน .ทั้งนี้ หน่วยงานในพื้นที่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้ความช่วยเหลือโดยจัดหาอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น ในเบื้องต้นแล้ว




วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

กรมชลประทาน เปิดเวทีรับฟังและศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง หวังแก้ไขปัญหาอุทกภัย ภัยแล้งและผลกระทบสิ่งแวดล้อม ครอบคลุม 3 จังหวัด อีสานตอนบน เลือกศึกษา 3 โครงการที่มีความสำคัญลำดับแรก


 เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566 ที่ โรงแรมหนองคายธาวิลล่า อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย กรมชลประทาน ได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ครั้งที่ 2 และปัจฉิมนิเทศ “โครงการศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย" โดยมี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดกิจกรรม  มีนายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน




นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีรมชลประทาน กล่าวว่า  กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย ปัจจุบัน มีพื้นที่ของลุ่มน้ำห้วยโมง ค่อนข้างกว้าง 2678 ตารางกิโลเมตร ลำน้ำที่ไหลผ่านลุ่มน้ำดังกล่าว มีลำน้ำสายหลักคือ ห้วยโมง มีต้นกำเนิดที่ภูชาน จังหวัดเลย ไหลผ่านจังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี ลงแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งปริมาณลุ่มน้ำที่ไหลผ่านลำน้ำสายหลักดังกล่าว ประมาณ 800 ล้าน ลบ. เมตร ต่อปี      จากการวิเคราะห์แล้วพบปัญหาหลัก 2 เรื่อง คือต้นน้ำเป็นพื้นที่สโลปค่อนข้างชัน ฝนตกลงมาก็เกิดการกัดเซาะในพื้นที่ต้นน้ำค่อนข้างมาก ตอนกลางมีลำน้ำที่ค่อนข้างคดเคี้ยวและขนาดเล็ก ทำให้เกิดอุทกภัยบ่อยครั้ง ส่วนปลายน้ำมีอิทธิพลของน้ำโขง  ช่วงฤดูฝนปริมาณน้ำฝนค่อนข้างสูง ส่งผลต่อการระบายน้ำที่ผ่านประตูห้วยโมง เพื่อให้เกิดการยั่งยืนของลุ่มน้ำดังกล่าว  กรมชลประทานจึงได้มีแนวทางการศึกษาการแก้ปัญหาในภาพรวมของลุ่มน้ำ ในทุกมิติ ทั้งแล้ง ทั้ง อุทกภัย ทั้งหมด 269 โครงการ ที่จะเร่งรัดดำเนินการ  เพื่อดำเนินแก้ปัญหา 3 โครงการ โครงการแรก แหล่งน้ำต้นทุน อ่างเก็บน้ำห้วยทอน ซึ่งเก็บกักน้ำได้ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำในพื้นที่ของห้วยทอนเอง ประมาณ 2,800 ไร่ และส่งไปที่ฝายห้วยทอน 2,400 ไร่ และดำเนินการวางโครงการเป็นลักษณะฝายพับได้ เพิ่มความจุประมาณ 1 เมตร เพื่อสามารถเก็บกักน้ำได้อีก 3.65 หรือประมาณ  10 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำในพื้นที่ได้อีกประมาณ 1,500 ไร่ โครงการที่สอง คือปัญหาตรงกลางลำน้ำ ที่คดเคี้ยว และขาดแคลนน้ำ เพื่อการเกษตร กรมชลประทาน จะมีการขุดขยายคลองเพื่อการระบายน้ำ สร้างประตู 2 จุด คือบ้านโนนวารี และบ้านนาข่า จำนวน 7 ช่อง เพื่อรองรับการระบายน้ำ  ลงแม่น้ำโขง  ผ่านประตูระบายน้ำห้วยโมง และบางส่วนเก็บกักอยู่ในลำน้ำห้วยน้ำโมง แต่จากความตื้นเขินของแหล่งน้ำตามธรรมชาติทำให้ในช่วงฤดูแล้ง ปริมาณน้ำต้นทุนมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่การเกษตรของราษฎรที่อยู่นอกพื้นที่ชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง    กรมชลประทานเล็งเห็นความสำคัญ จึงให้มีการศึกษาความเหมาะสมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมงเพื่อจัดทำแผนหลักการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง และทำการศึกษาความเหมาะสมโครงการที่มีความสำคัญที่สุดตามลำดับการศึกษาแผนหลัก พร้อมทั้งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี และหนองคาย ได้มีแหล่งเก็บกักน้ำที่เพิ่มมากขึ้น สามารถบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะภาคเกษตร รวมไปถึงการปรับปรุงระบบการกระจายน้ำในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดปัญหาอุทกภัยในช่วงน้ำหลากได้  ปัจจุบันการศึกษาความเหมาะสม ได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการสำรวจและออกแบบเบื้องต้น คาดว่าจะสามารถดำเนินโครงการฯ ได้ในปี 2568




สำหรับแผนหลักการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง ได้จัดทำแผนปฏิบัติการเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรเทาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำและบรรเทาปัญหาอุทกภัย ซึ่งได้คัดเลือกโครงการที่มีความสำคัญ 3 ลำดับแรก ได้แก่ โครงการเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำห้วยทอน (ตอนบน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านบางกอกน้อย ตำบลด่านศรีสุขอำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย,โครงการปรับปรุงลำน้ำห้วยโมง  จุดเริ่มต้นบ้านโพธิ์ตาก ตำบลโพธิ์ตาก อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย สิ้นสุดบ้านโก่ม ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี พร้อมก่อสร้างประตูระบายน้ำกลางคลอง 2 แห่ง ประกอบด้วย การก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านโนนวารี และประตูระบายน้ำบ้านนาข่า และโครงการผันน้ำห้วยลาน-ห้วยคุก จุดเริ่มต้นรับน้ำจากห้วยลานที่บ้านดอนขม ตำบลบ้านว่าน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย และจุดสิ้นสุดออกแม่น้ำโขงที่บ้านเวียงคุก ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย




ด้าน นายราชันย์  ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า มีการศึกษาการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง น่าจะช่วยเสริมเรื่องคุณภาพชีวิตชาวหนองคายที่อยู่ปลายลำน้ำโมงให้ดีมากยิ่งขึ้น ที่มีอยู่ปัจจุบันก็ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่อยู่แล้ว หากมีการพัฒนา ศักยภาพการเก็บกักน้ำ มีช่องทางระบาย การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก็จะช่วยประชาชนได้ดีขึ้น ประชาชนประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก มิติการใช้น้ำมีความจำเป็นอย่างมาก การบริหารจัดการน้ำในห้วงของน้ำที่มีเหลือ ไว้ใช้ในหน้าแล้ง กรณีการสูบน้ำโขงเข้ามาในพื้นที่ เพื่อช่วยให้พี่น้องมีทรัพยากร มีเครื่องมือในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น ตรงนี้มีส่วนสำคัญมากๆ ต้องขอบคุณกรมชลประทาน  ได้สื่อสารพี่น้องประชาชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อยากเห็นน้ำโขง ซึ่งเป็นสายน้ำหลักของบ้านเรา ให้เลี้ยวขวาเข้ามาบ้านเราให้มากๆ เพื่อนำน้ำโขงไปใช้ประโยชน์  ซึ่งชลประทานโครงการนี้ หรือโครงการที่ทำโพนพิสัย ก็ตอบโจนท์เรื่องนี้อยู่แล้ว รอเวลาความสำเร็จเรื่องนี้อยู่ ในขณะเดียวกันเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพิ่มช่องทางระบายในหลาย ๆ ส่วนด้วย เติมเต็มในส่วนของเวียงคุก ที่ถัดจากท่าบ่อลงมา ก็เพิ่มช่องทางเก็บกักน้ำ สูบน้ำให้มากยิ่งขึ้น  การใช้น้ำอย่างคุ้มค่า  พี่น้องประชาชนเห็นความสำคัญเรื่องน้ำ ฝากถึงประชาชน น้ำคือชีวิต การใช้น้ำอย่างเต็มกำลังให้เกิดประโยขน์สูงสุดได้ จะคุ้มค่ามาก ๆ การมีส่วนร่วมของประชาชนมีความจำเป็น ทั้งในเรื่องของหลักการ เป็นโอกาสในการนำเสนอ เป็นโอกาสให้ข้อคิดเห็น จากข้างล่างขึ้นข้างบน ค่อนข้างจะชัด ส่วนราชการต่าง ๆ นำข้อคิดเห็น นำข้อเสนอแนะ  ไปสู่การปฏิบัติ ไปสู่การขับเคลื่อนตามแนวทางที่ทางภาครัฐต้องการ จะเป็นประโยชน์ที่สอดคล้อง สอดรับกันเป็นอย่างมาก ความคิดเห็นพี่น้องประชาชนมีส่วนสำคัญ สามารถตอบโจทย์ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการบริหารจัดการ 






วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอัคคีภัย จึงได้นำกำลังพลนำสิ่งของเครื่องใช้ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

วันที่ 9 พ.ค.2566 ที่ กองอำนวยการช่วยเหลือประชาชนเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ หมู่ 3 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พันเอก ณัฏฐาภูมิ  นิกร ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมพันเอก ณัฐชัย ปัญญาใส รองผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน และเจ้าหน้าที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของหน่วยฯ นำสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น มอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอัคคีภัย ถูกเพลิงไหม้บ้านวอด 4 ครัวเรือน เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 156/2 หมู่ 3 ต.พานพร้าว ของนางสิริ ผิวนวน , บ้านเลขที่ 224 หมู่ 3 ต.พานพร้าว ของนางเคี่ยม ศรีบุญเรือง , บ้านเลขที่ 166 หมู่ 3 ต.พานพร้าว ของนายปรีดี  บัวแก้ว และบ้านเลขที่ 156 หมู่ 3 ต.พานพร้าว ของนางเม็ด แสงศรี เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องตัน โดยมี ว่าที่ ร.ต.นครชัย แสงมณี นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอาวุโสฯ นายเจริญศักดิ์ บุญดี รองนายกเทศมนตรีตำบลศรีเชียงใหม่ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่มอบในครั้งนี้



ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย และเพิ่อให้ชาวบ้านเกิดความเชื่อมั่นหน่วยทหารพัฒนา กองทัพไทย ที่จะส่งกำลังทหารดูแลประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล กองบัญชาการกองทัพไทย ได้มอบนโยบายให้ นพค.ทุกหน่วยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน อย่างทันท่วงที เป็นการลงช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ที่มีหน่วยทหารพัฒนา











จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...