นรข.หนองคาย ซุ่มริมโขงจับแก๊งค้ายานรกข้ามแม่น้ำโขง ยึดได้ 62,000 เม็ด

หน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย บูรณาการซุ่มริมโขงจับแก๊งค้ายานรกแล่นเรือข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งไทย ก่อนเข้าจับแต่นักค้ายาอาศัยความมืดวิ่งหนีเข้าไปในพงหญ้าที่รกทึบหลบหนีไปได้ ตรวจยึดพบยาบ้าในกระเป๋าสีน้ำตาล 1 กระเป๋า จำนวน 62,000 เม็ด

วันที่ 17 ก.ค. 2566 เจ้าหน้าที่หน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย ได้รับแจ้ง จากสายข่าว ว่าจะมีการลักลอบส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่บ้านพวก ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย จึงได้รายงานให้ นาวาเอกจิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตหนองคาย ทราบ พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันจัดวางกําลังซุ่มเฝ้าตรวจพื้นที่ที่ได้รับแจ้งและบริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.15 น. ของวันที่ 16 ก.ค.66 เจ้าหน้าที่ฯ ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือ จึงได้ใช้กล้องส่องกลางคืนตรวจสอบ พบเรือกีบเพลายาว จำนวน 1 ลำบริเวณกลางแม่น้ำโขง เรือแล่นมาจากทางด้านบ้านหัวหาด ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย โดยมีบุคคลต้องสงสัยมากับเรือ 2 คน และในเวลาต่อมาเรือลำดังกล่าวได้ดับเครื่องและพายเรือเข้าไปบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงของบ้านพวก ต.บ้านเดื่อ ห่างจากจุดที่ จนท.ซุ่มเฝ้าตรวจประมาณ 2 เมตร มีชายต้องสงสัย 1 คน ได้เดินไปยังบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงที่เรือต้องสงสัยอยู่ และบุคคลที่อยู่บนเรือได้โยนวัตถุต้องสงสัยให้กับชายที่อยู่บนฝั่ง จำนวน 1 ชิ้น และได้แล่นเรือออกไปยังทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

จนท.จึงได้แสดงตนเพื่อขอตรวจค้น โดยชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้ทิ้งวัตถุต้องสงสัยแล้วอาศัยความมืดวิ่งหนีเข้าไปในพงหญ้าที่รกทึบหลบหนีไปได้  จนท.จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบพื้นที่พบกระเป๋าสีน้ำตาล จำนวน 1 จึงได้เปิดกระเป๋าออกเพื่อตรวจสอบ พบก้อนสี่เหลี่ยมสีน้ำตาลห่อด้วยกระดาษไขที่มี ตราอักษร Y-1 หมึกสีเขียว ภายในเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จนท.จึงนําของกลางทั้งหมดมายังหน่วยเรือโพนพิสัย เพื่อทำการตรวจนับอย่างละเอียด ผลการตรวจนับยาบ้าทั้งหมดประมาณ 62,000 เม็ด  จึงได้ทำบันทึกตรวจยึด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเดื่อ เพื่อดําเนินงานตามกฎหมายต่อไป 

หนองคาย - ร.ร.อนุบาลจินลดา สร้างสัมผัสความรักของแม่-ลูก ผ่านงานศิลปะ จากครูแดงบ้านศิลป์ไทย

โรงเรียนอนุบาลจินลดา จ.หนองคาย จัดโครงการค่ายศิลป์สร้างสรรค์สัมพันธ์แม่-ลูก เป็นการถ่ายทอดความรัก สายใยแห่งความผูกพันของแม่กับลูกผ่านงานศิลปะ โดยครูแดงบ้านศิลป์ไทย ครูผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนศิลปะเด็ก มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลป์

วันที่ 15 ก.ค. 2566 ณ โรงเรียนอนุบาลจินลดา เลขที่ 288 หมู่ที่ 2  ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย  นางสาวชลันดา บุญยณกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ และครูผู้ดูแลเด็ก ได้จัดทำโครงการค่ายศิลป์สร้างสรรค์สัมพันธ์แม่-ลูก ประจำปี 2566 โดยผู้ปกครองกับเด็กๆ ที่เข้าร่วม ได้เรียนรู้การวาดเส้นศิลปะพื้นฐานอย่างง่ายๆ จากนายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือครูแดง ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย มาเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับศิลปะให้กับเด็กและผู้ปกครองในครั้งนี้ เพี่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลป์ รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย สติปัญญา สังคม และอารมณ์ โดยมีนายอนันท์ ศรีภา รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการฯ

โดยผลที่คาดว่าจะได้รับจากการจัดกิจกรรม คือ พ่อแม่หรือผู้ปกครองมีความรู้และเห็นความสำคัญของการส่งเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา สังคม และอารมณ์ รวมทั้งเด็กๆ ได้รับการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย สติปัญญา สังคม และอารมณ์จากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง และเด็กๆยังจะได้รับการส่งเสริมทักษะทางด้านศิลป์สร้างสรรค์ ที่สอดคล้องกับวัยโดยวิทยาการที่มีความรู้ความสามารถ ทำให้พ่อแม่หรือผู้ปกครอง มีความสนใจและตระหนักในการส่งเสริมให้เด็กได้กล้าแสดงออก ตามพัฒนาการที่เหมาะสมและตามความสามารถของตนเองต่อไป อีกทั้งส่งเสริมความรู้สึกที่ได้มาทำงานศิลปะมอบเป็นของขวัญและความทรงจำดีๆ ระหว่างคุณแม่กับลูก

บรรยากาศก็เป็นไปอย่างมีความสุขและอบอุ่น ที่คุณแม่ทำกิจกรรมร่วมกับลูกๆ  เพราะช่วยกระชับความสัมพันธ์กับครอบครัว แถมยังช่วยให้เด็กๆ มีความคิดสร้างสรรค์  สร้างจินตนาการให้ลูกรักอีกด้วย

หนองคาย -สำรวจพื้นที่ก่อสร้างโครงการขยายถนน คสล. ดอนป่าเปือยบ้านหม้อ

หัวหน้าสำนักงานจังหวัดหนองคายพร้อมคณะ ลงสำรวจพื้นที่เตรียมก่อสร้างโครงการขยายถนน คสล. ณ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ โดยจังหวัดหนองคายจัดงบสนับสนุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน

วันที่ 14 ก.ค. 2566 ณ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ หมู่ที่ 7 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายสนั่น ณ นุวงษ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดหนองคายพร้อมคณะ เดินทางลงสำรวจพื้นที่ที่จะดำเนินงานก่อสร้าง "โครงการขยายถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.)" ดอนป่าเปือยบ้านหม้อ โดยมีนายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอาวุโสอำเภอศรีเชียงใหม่ นายอภินันท์ อุตมะ นายก อบต.บ้านหม้อ พร้อมคณะกรรมการจิตอาสาพัฒนาดอนป่าเปือย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชมจุดที่จะดำเนินการก่อสร้างฯ จากทางเดินเดิมเป็น คสล. เพื่อให้นักท่องเที่ยวสะดวกในการเดินทางไปชมต้นเปือยยักษ์ ที่มีขนาดเส้นรอบวง 5.30 เมตร อยู่ทางทิษตะวันตกของพื้นที่ และเป็นต้นเปือยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกด้วย

ทั้งนี้จังหวัดหนองคาย โดยนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้สนับสนุนงบประมาณตามแผนพัฒนาจังหวัด พ.ศ.2566-2570 โดยได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหม้อ รับผิดชอบในการดำเนินการก่องสร้างถนน คสล. จากทางเดินเดิม มีขนาดความกว้าง 1.00 เมตร ระยะทางยาวไปจนถึงต้นเปือยยักษ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวจังหวัด  ภายใต้สโลแกน หนองคาย "เมืองน่าอยู่ มุ่งสู่เกษตรอินทรีย์ ท่องเที่ยววิถีลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงการค้าชายแดน" บนพื้นฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน ได้อย่างมั่นคงต่อไป

หนองคาย - อำเภอศรีเชียงใหม่ขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ

อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และโครงการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ระดับตำบลพานพร้าว โดยบ้านยอยไฮ หมู่ที่ 6 เป็นหมู่บ้านเป้าในการขับเคลื่อนผ่านการทำ MOU ภายใต้โครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข

วันที่ 14 ก.ค.2566 ณ วัดจอมทองอุดมมาษฎร์ บ้านยอยไฮ หมู่ที่ 6 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอาวุโสอำเภอศรีเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายจักรวรรดิ วิทาโน พัฒนาการอำเภอศรีเชียงใหม่ ร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน บูรณาการทำงานขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในวาระทรงเจริญพระชนมพรรษาครบรอบ 3 รอบ 36 พรรษา ในวันที่ 8 มกราคม 2566

โดยน้อมนำแนวพระราชดำริเรื่อง "หมู่บ้าน ยั่งยืน" ของพระองค์มาดำเนินการขับเคลื่อน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมทั้งขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในกิจกรรม "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" , กิจกรรม 1 หมู่บ้าน 1 บ้านนี้มีผล ผู้คนรักกัน , กิจกรรมปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และกิจกรรมปลูกต้นไม้  เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี การประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนประเทศไทยยั่งยืน

พน้อมกันนี้ อำเภอศรีเชียงใหม่ ยังได้ดำเนินโครงการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ระดับตำบลพานพร้าว โดยมีเป้าหมายการขับเคลื่อนตามแนวนโยบายของกระทรวงมหาดไทย คือบ้านยอยไฮ หมู่ที่ 6 เป็นหมู่บ้านเป้าหมายตามโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ คือ  1. เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในวาระทรงเจริญพระชนมพรรษาครบรอบ 3 รอบ 36 พรรษา , 2.เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกด้าน ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม นำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน , 3. เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านชุมชน มีความสมัครสมาน สามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะ สร้างคำนิยมเสียสละจิตอาสา เพื่อให้เกิดความรัก ความผูกพันใน 4 สถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน , 4. เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกด้าน เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน , 5. เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน และฟื้นฟูเศรษฐกิจรากฐาน ทำให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเสมอภาคในหมู่บ้าน/ขุมชน  , 6. เพื่อพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  แก้ไขปัญหาความยากจนและลดปัญหาความเหสื่อมล้ำ ให้ประขาขนในหมู่บ้าน/ชุมชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น , 7. เพื่อใหัประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน , 8. เพื่อส่งเสริมความมั่งคงภายในประเทศ ประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน กินดี อยู่ดี มีความสุข บ้านเมืองมีความมั่นคงในทุกมิติและทุกระดับ และ 9. เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขเพิ่มมากขึ้น มีความทุกข์ลดลงจนหมดไป

ทั้งนี้อำเภอศรีเชียงใหม่ได้ดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs คือ การพัฒนาคน สังคม การมั่นคงทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ความสงบสุข และหุ้นส่วนความร่วมมือ โดยผ่านการจัดทำลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ภายใต้โครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข