นำเด็กเล็กของ ศพด. ออกเรียนรู้นอกห้องเรียน

ศพด.เทศบาลเทศบาลเมืองท่าบ่อ นำเด็กเล็กของศูนย์ 1 (ท่าเสด็จ) และศูนย์ 2 (บ้านน้ำโมง) ออกเรียนรู้นอกห้องเรียน ไปสัมผัสบรรยากาศภายในบ้านทุ่งศิลป์แดง เพื่อให้เด็กเล็กได้ประสบการณ์โดยตรง

วันที่ 24 ม.ค. 2567 ที่ บ้านทุ่งศิลป์แดง หมู่ 3 บ้านทุ่ม ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางสาวจุฑามาศ ปรมสิทธิ์ ครู รักษาราชการแทนหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองท่าบ่อ ศูนย์ 2 (บ้านน้ำโมง) เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนระดับชั้นปฐมวัย 3 ขวบ ประจำปีการศึกษา 2566 โดยมี นางสาวชิตชนก นามแสงกาง ครู ศพด.เทศบาลเทศบาลเมืองท่าบ่อ กล่าวรายงาน พร้อมครูผู้ดูแลเด็กเล็กของศูนย์ 1 (ท่าเสด็จ) และศูนย์ 2 (บ้านน้ำโมง) ร่วมกิจกรรม 

ในการจัดโครงการครั้งนี้ทำใหัเด็กเล็กของ ศพด.เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้ประสบการณ์โดยตรงจากครูแดง บ้านศิลป๋ไทย และได้สัมผัสบรรยากาศภายในบริเวณบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง มีทั้งถ่ายภาพกับบ้าน 124 มิติ ชมสวน ลุยทุ่ง และวาดภาพระบายสี เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เปลี่ยนบรรยากาศ ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง และส่งเสริมให้เต็กให้เกิดความคิด สติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดฟื้นฐาน และแสวงหาความรู้ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เต็กอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

เจอซากเครื่องบินในแม่น้ำโขง คาดยุคสงครามเวียดนามหรือในสมรภูมิลาว

ชาวบ้านอึ้ง! คนหาปลาเจอซากเครื่องบินในแม่น้ำโขง คาดอายุกว่า 50 ปี ยุคสงครามเวียดนามหรือในสมรภูมิลาว คุณยายวัย 70 ปี เผยเห็นตกตั้งแต่อายุ 12 ปี ไม่คาดคิดว่าซากเครื่องบินยังอยู่ ส่วนรอง ผวจ.หนองคาย เตรียมประสาน ทอ. เข้าสำรวจหวั่นมีวัตถุระเบิดหลงเหลืออยู่ พร้อมสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเซฟพื้นที่ห้ามผ่าน

วันที่ 23 ม ค.2567 เวลา 14.30 น.นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ ตำรวจ ทหาร เทศบาลตำบลกองนาง และกู้ภัยประจักษ์หนองคาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบซากเครื่องบินจมอยู่ใต้แม่น้ำโขง บริเวณบ้านปากมาง หมู่ 12 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย  

สอบถามชาวบ้านทราบว่า ได้มีชาวบ้านออกหาปลาในแม่น้ำโขง ซึ่งช่วงนี้น้ำโขงลดระดับ โดยระหว่างที่หาปลาอยู่ปรากฏว่าตาข่ายดักปลาไปเกี่ยววัตถุบางอย่าง จึงได้ตรวจดูก็พบว่าเป็นซากเครื่องบิน มีลักษณะมีใบพัดอยู่ด้านหน้าลำเครื่องบิน ซึ่งจากการสำรวจของ จนท. สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเครื่องบินรุ่น T-28 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้ทิ้งระเบิด เป็นเครื่องบินโจมตีในยุคสงครามเวียดนาม หรือในสมรภูมิลาว ไม่พบร่างนักบิน พบโครงหลังคาในห้องนักบิน กระจกแตก มีทรายทับถมเข้าเต็มห้องเครื่อง ส่วนช่วงโครงห้องนักบินจมผืนทราย ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ และเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินที่กู้ภัยงมขึ้นมาได้ 3 ชิ้น คาดว่าจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบิน มีตัวเลขระบุไว้ด้านข้างหมายเลข 0-212

คุณยายจันทอง พลัดพรหม อายุ 70 ปึ  ชาวบ้านปากมาง เล่าว่า  เมื่อช่วงยายอายุ 12 ปี ในขณะนั้นยายกำลังกำลังขี่หลังควายเล่นอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นยังเด็กอยู่ก็ไม่เคยเห็นเครื่องบิน แล้วแถวริมโขงสมัยนั้นยังไม่เป็นป่ารกทึบ ก็สังเกตุเห็นเครื่องบินลำนี้ขับว่อนไปมาหงายท้องตีลังกาอยู่ประมาณ 3 รอบ แล้วก็หัวทิ่มลงในน้ำโขง เมื่อรู้ว่าพบซากเครื่องบินจึงได้ลงมาดู ไม่คาดคิดว่าผ่านไป 58 ปี ซากเครื่องบินจะยังอยู่เท่าทุกวันนี้

 

นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  กล่าวว่า  ในเบิ่องต้นจะใหั กอ.รมน.จังหวัดหนองคาย ทำหนังสือไปยังกองทัพอากาศเพื่อขอผู้เชี่ยวชาญมาสำรวจ เพราะยังไม่รู้ว่าข้างล่างนั้นจะมึวัตถุระเบิดอยู่หรือเปล่า ซึ่งในเบี้องต้นท่านนายอำเภอท่าบ่อได้สั่งให้ล้อมพื้นที่ไว้แล้ว ด้วยความร่วมมือของฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และเทศบาลตำบลกองนาง

รอง ผวจ.หนองคาย กล่าวอีกว่า ส่วนอายุของเครื่องบินคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อปี 2502  และในสมรภูมิลาวเมื่อปี 2518 ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในระหว่างนี้  และสัญนิตฐานว่าน่าจะ 50 กว่าปี เพราะฟังจากชาวบ้านเล่าซึ่งอายุก็เกิน 60 แล้ว คาดว่าเครื่องบินน่าจะตกฝั่งลาวแล้วถูกกระแสน้ำพัดมา ตอนนี้ต้องเซฟพื้นที่ไว้ก่อน โดยกั้นพื้นที่รอบๆ เอาไว้เพื่อปัองกันคนหาปลาผ่าน เพราะไม่รู้ว่าข้างล่างมีอะไรอยู่หรือเปล่า

รวบหนุ่มใหญ่สระแก้ว รับจ้างขนยาบ้ากว่า 8 พันเม็ด ข้ามแดนเข้าไทย

รวบคาด่านพรมแดน! ศุลกากรหนองคาย รวบตัวหนุ่มใหญ่ชาวอรัญประเทศ จ.สระแก้ว รับจ้างพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวลาว 5 พัน ขนยาบ้ากว่า 8 พันเม็ดข้ามแดนเข้าไทย ส่งใหัเครือข่ายในหนองคาย

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2567 เวลา16.00 น ที่ ด่านศุลการกรหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายสมบัติ ค้อนทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากรจังหวัดหนองคาย,นายพัฒนพงศ์ ตันติวัฒนกุลชัย หัวหน้าด่านหัวหน้าฝ่ายบริการ ศุลกากรที่ 1 สำนักศุลกากรหนองคาย ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ,เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย,เจ้าหน้าที่ ตชด.245 จังหวัดหนองคาย แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชายชาวไทย ชื่อ นายกล้า ประสงค์ผล อายุ 43 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) ชาว อ.รัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมของกลางยาบ้า 8,000 เม็ด เงินสดกว่า 20,000 บาท

การจับกุมในครั้งนี้ ผู้ต้องหาได้เดินทางมาจาก สปป.ลาว ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ได้สังเกตถึงพฤติกรรมที่หน้าสงสัย จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นและได้พบวัตถุต้องสงสัยจำนวน 4 ห่อ ที่ซ่อนอยู่ที่บริเวณกระเป๋ากางเกงของผู้ต้องหาพบเป็นยาบ้า  

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชาวลาว ชื่อเลี้ยง เป็นคนสั่งการให้วัยรุ่นชาวลาวนำยาบ้ามาให้ผู้ต้องหาที่บริเวณขนส่งสายเหนือ  สปป.ลาว และให้ตนนำยาบ้ามาส่งในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยได้ค่าจ้าง 5,000 บาท เจ้าหน้าได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เลี้ยงปู่ตาเดือนยี่หลังฤดูทำนา เพื่อความเป็นสิริมงคล

ชาวท่าบ่อ จ.หนองคาย นำอาหารคาวหวานเลี้ยงปู่ตา ตามประเพณีเลี้ยงบ้านเดือนยี่หลังฤดูทำนา เพื่อความเป็นสิริมงคล

วันที่ 17 ม.ค. 2567 เวลา 07.00 น. ที่ หอปู่ตา ริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ 9 ต.ท่าบ่อ  อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้มีชาวท่าบ่อ ประกอบด้วย หมู่ 5  หมู่ 9 หมู่ 12  ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ ได้ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงปู่ตาเจ้าบ้าน โดยชาวบ้านนำเอาเครื่องเลี้ยง ได้แก่ ขัน 5 มีเทียน 5 คู่ ดอกไม้ 5 คู่ และขัน 8 มีเทียน 8 คู่ ดอกไม้ 8 คู่ พร้อมด้วยอาหารคาวหวาน และอาหารที่หาได้ตามท้องถิ่น รวมไปถึงผลไม้ ขนม น้ำ เหล้า หมากพลู และบุหรี่ นำไปที่หอเพื่อเซ่นไหว้และเป็นการเลี้ยงปู่ตาเดือนยี่ ที่ถือเป็นการเลี้ยงบ้าน หรือเลี้ยงปูตาหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตในท้องนา และจะเลี้ยงกันอีกทีในเดือน 6 ช่วงก่อนฤดูกาลทำนา

โดยพิธีกรรมเลี้ยงปู่ตาของชาวท่าบ่อ เป็นการแสดงความรัก ความกตัญญู และความผูกพันของชาวบ้านที่มีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นการส่งเสริมให้ชุมชนเกิดความสามัคคี อันจะนำไปสู่ความมั่นคง เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และคนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมายาวนานกว่า 100 ปี เชื่อว่า "ผีปู่ตา" เป็นวิญญาณของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งหมู่บ้าน ที่คอยปกปักรักษาลูกหลาน ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือสูงสุดในหมู่บ้าน เชื่อว่าผีปูตาสามารถให้คุณให้โทษได้ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีเลี้ยงปู่ตาเจ้าบ้านแล้ว ชาวบ้านจะนำอาหารที่เหลือกลับไปรับประทานที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล

ชาวไทย-ลาว พาบุตรหลานเที่ยวงานวันเด็กดอนป่าเปือยบ้านหม้อ

หนึ่งเดียวในไทย! ตีระฆังอายุราว 90 ปึ เปิดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ  มีผู้ปกครองชาวไทย ชาวลาว พาบุตรหลานเที่ยวงานคึกคัก ขณะที่เด็กร่วมกิจกรรมบางคนอยากได้จักรยานมาก ยอมยืนเฝ้าไม่ห่าง 

วันที่ 13 ม.ค. 2567 ที่ ดอนเปือยบ้านหม้อ หมู่ 7 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย คณะกรรมการจิตอาสาพัฒนาดอนป่าเปือย รวมกับห้างร้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมี ผอ.สนอง เข็มพรหมมา ประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธานอ่านสารของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  ภายใต้คำขวัญวันเด็กปี 2567 “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” พร้อมตีระฆังเพื่อเป็นสัญลักษ์ในการเปิดกิจกรรมวันเด็กในปีนี้ ซึ่งระฆังดังกล่าว เป็นระฆังทองเหลืองเพื่อตีเรียกนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ หรือตีบอกเวลาในโรงเรียน ซึ่ง ผอ.สนองได้เก็บรักษาไว้เมื่อครั้งบรรจุครูประชาบาลใหม่ๆ หรือระฆังมีอายุราว 90 ปีมาแล้ว โดยมีผู้ปกครองทั้งชาวไทย และชาวนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พาบุตรหลานเที่ยวงานอย่างคึกคัก

สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อให้เด็กเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียงได้ร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถกล้าคิด กล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง และเพื่อปลูกฝังค่านิยม คุณธรรมอันดีงามให้แก่เด็ก และเยาวชน 

โดยมีกิจกรรมการวาดภาพระบายสีชิงของรางวัลและทุนการศึกษา การเล่นเกมตอบคำถามชิงของรางวัลและทุนการศึกษา และการละเล่นต่างๆ พร้อมทั้งแจกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีการบริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งมีการมอบของขวัญให้แก่เด็กๆ ทุกคนที่เข้าร่วมงาน โดยในขณะที่กำลังมอบรางวัลชนะเลิศกิจกรรมวาดภาพระบายสี ระดับ ป.1-ป.3 เป็นรถจักรยานและทุนการศึกษา จู่ๆ ก็มีเด็กชายคนหนึ่งมายืนเฝ้ารถจักรยานไม่ห่าง  ท่าทางอยากจะได้เป็นเจ้าของ จนผู้ปกครองมาดึงแขนออก แต่น้องก็ไม่ยอมไป  ผู้ปกครองต้องปรอบใจน้อง สักพักน้องจึงยอมออกไปพร้อมกับรัองให้ออกมา กิจกรรมจึงดำเนินต่อและจบลงไปด้วยดี