วันที่ 3 ส.ค. 63 นางสาวณัฐสุดา ศรีต้นวงค์ อายุ 56 ปี ชาวนาบ้านสว่าง หมู่ 10 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยชาวบ้านกำลังช่วยกันปักดำนาหลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำหล่อเลี้ยงชุ่มฉ่ำในแปลงนา โดยจะเร่งปักดำและหว่านปุ๋ยให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เมล็ดข้าวเจริญงอกงาม ทันเวลาเก็บเกี่ยว ซึ่งคาดหวังว่า จะได้ข้าวเพียงพอที่จะนำไปขายและเก็บไว้กินในครัวเรือน
นางสาวณัฐสุดา ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่นา กล่าวว่า ตนเองดีใจมากที่ฝนตกลงมา ซึ่งการทำนาแต่ละปีต้องรอน้ำฝนอย่างเดียว น้ำในคลองก็ไม่มี น้ำในบ่อก็มีนิดเดียว เพราะพื้นที่นาของตนเป็นพื้นที่นาโคก(นาดอน) หว่านกล้าไว้ก็จะแห้งตาย พอฝนตกลงมาต้นกล้าก็ฟื้นคืนกลับมา ก็เลยเร่งดำนา ซึ่งต้องจ้างแรงงานในการดำวันละ 360 บาท ปกติจะจ้างดำเป็นงาย(ครี่งวัน) เวลา 07.00 น.-11.00 น. 180 บาท แต่ดำนาทั้งเช้าและบ่าย รวมกัน 1 วัน จะเป็น 360 บาท ซึ่งแต่ละครั้งรวมจ้างดำนา จ้างถอนกล้า ไม่รวมค่ารถไถนา ตกอยู่ที่ 20,000 บาท ท่ารวมค่ารถไถนาด้วย ก็จะตกปีละ 30,000 บาท พอผลผลิตออกมาก็ขายได้ปีละ 10,000 บาท ที่เหลือก็เก็บไว้กิน เพราะกว่าฝนจะมาก็ครั้งละปี ท่าปีไหนแร้งไม่มีฝน ก็ไม่มีน้ำ และก็จะไม่มีข้าวกิน น้ำต้นทุนก็ไม่มี ต้องรอน้ำฝนอย่างเดียว และต้องเจาะน้ำบาดาลใช้ เพราะน้ำในคลองไม่มี ฝนตกลงมารู้สึกดีใจมาก ทำให้มีน้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงแปลงนาของตัวเองในระยะนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น