วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

อ่วมอีกรอบ!..พายุฤดูร้อนถล่มอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ซ้ำรอบ 2 เสียหายกว่า 10 หลังคา (มีคลิป)




หนองคาย - อ่วมอีกรอบ!..พายุฤดูร้อนฝนตก และลมกรรโชกแรงถล่มอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ซ้ำรอบ 2 บ้านเรือนได้รับความเสียหาย หลังคาปลิวว่อนกว่า 10 หลังคา ต้นไม้หักทับบ้านเรือนประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลัง อบต. และผู้ใหญ่บ้าน เร่งสำรวจและออกทำการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

       
       วันนี้ (9 พ.ค. 2561) ที่หมู่ที่ 8 บ้านดอนขม ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ร.ต.ศราวุฒิ ปาระศรี ผู้บังคับหมวดรักษาความสงบ ที่ 2 กองกำลังรักษาความสงบจังหวัดหนองคาย นายโสภณ สรรพศิลป์ นายก อบต.บ้านเดื่อ นายสัมพันธ์ บัวจำนงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านดอนขม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกสำรวจและช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกพายุฤดูร้อนฝนตก และลมกรรโชคแรง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.50 น. ของวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา แรงลมได้พัดหลังคาบ้านปลิวออกจากตัวบ้าน 17 หลังคาเรือน และยังมีต้นลำใยอายุ 50 ปี หักทับบ้านเรือนพังเสียหายเช่นกัน โดยได้ช่วยชาวบ้านเก็บสังกะสี ตัดต้นไม้ที่หักโค่นทับรั้วและหลังคาบ้าน ออกจากตัวบ้าน





โดยเฉพาะบ้านของนายนรสินธุ์ ธรรมวงศา อายุ 80 ปี บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 8 บ้านดอนขม ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ถูกพายุพัดเสียหายอย่างหนัก นายนรสินธุ์ได้เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงหัวค่ำตนและลูกๆกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ไม่นานก็มีลมพัดมาและมีฝนตก และก็หยุดไป อีกไม่นานลมก็พัดมาอีกรอบและแรงกว่า ตนและลูกๆจึงวิ่งเข้ามาในบ้านเพื่อเก็บของที่ถูกลมพังล้มลง และช่วยกันยกเตียงของภรรยาตนที่นอนป่วยไปยังที่ปลอดภัย ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังสนั่น มองขึ้นไปข้างบนบ้านของตนก็พบว่าหลังคาบ้านถูกลมพัดยกไปทั้งแผง ฝาผนังบ้านพังเสียหาย ต้นไม้หักโค่น ฝนที่ตกลงมาทำให้ของใช้ภายในบ้านเสียหาย ลังคาปลิวไปตกที่สวนของเพื่อนบ้าน ห่างจากบ้านตนประมาณ 20 เมตร

นอกจากนี้ ที่หมู่ 5 บ้านพฤกษาหาร ตำบลน่าข่า อำเภอท่าบ่อ ก็มีบ้านเรือนประชาชนถูกพายุพัดเสียหายอีก 2 หลัง ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป.









วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น!...เทศบาลเมืองหนองคาย จัดอบรมแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี



หนองคาย  - เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น!...เทศบาลเมืองหนองคาย โดยกองวิชาการและแผนงาน ร่วมกับสำนักการคลัง จัดอบรมแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี งบประมาณรายจ่ายและแผนการดำเนินงานของเทศบาลเมืองหนองคาย ประจำปีงบประมาณ 2561 เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจกระบวนการและแนวทางในการจัดทำแผน ให้ถูกต้องตามระเบียบเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน

       วันนี้ (8 พ.ค. 2561) ที่หอประชุมเทศบาลเมืองหนองคาย นายกำภล  เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฎิบัติการจัดอบรมแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี งบประมาณรายจ่ายและแผนการดำเนินงานของเทศบาลเมืองหนองคาย ประจำปีงบประมาณ 2561 ซึ่งกองวิชาการและแผนงาน ร่วมกับสำนักการคลัง ร่วมกันจัดขึ้น จากนั้น นายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้พบปะกับผู้เข้าอบรม และขอให้ตั้งใจรับเอาความรู้ที่ได้จากการอบรมครั้งนี้ไปใช้ในการจัดทำแผนเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 

       โดยมี นายสมหวัง อารีย์เอื้อ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดหนองคาย เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ ความเชื่อมโยงของแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนาท้องถิ่นกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย, ดร.ยุทธพล  ทวะชาลี รองประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น บรรยายหัวข้อ แนวคิดการพัฒนาท้องถิ่น กับไทยแลนด์ 4.0 และการพัฒนาเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย และหัวข้อ สมรรถนะสำคัญขององค์กรและบุคลากรเพื่อท้าทายการเปลี่ยนแปลง และนางพรพรรณ  ชลประทาน ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน บรรยาย เรื่องการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี งบประมาณรายจ่าย แผนการดำเนินงาน และการติดตามประเมินผลแผนพัฒนา
      



     


       การอบรมครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้มีความรู้ ความเข้าใจ กระบวนการและแนวทางในการจัดทำแผน สามารถดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี งบประมาณรายจ่าย แผนการดำเนินงานของเทศบาลเมืองหนองคาย และการจัดซื้อจัดจ้าง ให้ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบที่กำหนด  เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน  เป็นการสร้างเครือข่ายประสานความสัมพันธ์กับองค์กรอื่น  แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์แนวคิดวิธีการปฎิบัติงาน มีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล พนักงานครูเทศบาล บุคลากรทางการศึกษา และพนักงานจ้าง เข้ารับการอบรม ซึ่งใช้เวลาในการอบรม 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-10  พ.ค. 61

        นายกำภล  เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อน เพื่อพัฒนาพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย หากวางแผนการพัฒนาของเทศบาลเมืองหนองคายไว้ได้ดีแล้ว จะสามารถเชื่อโยงไปสู่การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี แผนการดำเนินงาน การติดตามประเมินผลแผนพัฒนา และการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ รวมถึงการขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างในระบบ EGP ให้มีความเข้าใจง่าย ไม่ซ้ำซ้อนง่ายต่อการปฎิบัติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงบประมาณรายจ่าย สุดท้ายการทำงานก็จะบรรลุวัตถุประสงค์.


ทีมข่าวหนองคาย ฤาษีลภ-ข่าว / มนเดช-ภาพ












วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ทหาร ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สนธิกำลังตรวจยึดไม้หวงห้าม จำนวน 21 แผ่น/เหลี่ยม



หนองคาย - ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สนธิกำลังตรวจยึดไม้หวงห้าม จำนวน 21 แผ่น/เหลี่ยม เตรียมส่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้ที่บริเวณหลังบ้านของผู้กว้างขวางรายหนึ่งของอำเภอสังคม
             
       เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2561  ร.ท.ประนอม  ลุนศรี  เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, นายวิทยา  พันหนอง เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาป่าที่ นค.1 (สังคม), เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม, เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่และไม้ชิงชัน จำนวน 21 แผ่น/เหลี่ยม พร้อมรถยนต์ โตโยต้า หมายเลขทะเบียน บม 772 เลย ที่ใช้ขนก่อนข้ามโขงส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้ที่บริเวณหลังบ้านของผู้กว้างขวางรายหนึ่งของอำเภอสังคม โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.ดร.พนมพร  อิทธิประเสริฐ รอง ผบช.ภ.4/รอง ผอ.ศปทส.ภ.4, พ.ต.อ.สมคิด ทัพยจักรพงษ์ ผกก.3 บก.ปทส., พ.ต.อ.สุรวุฒิ  อุรัจฉัท ผกก.สภ.สังคม, พ.ต.วรเทพ  ฬาสาร ผช.ฝกรฦทกย.กกล.สุรศักดิ์มนตรี
                



       การตรวจยึดครั้งนี้ ที่เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นำโดย ร.ท.ประนอม  ลุนศรี  พร้อมด้วยกำลังจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันออกตรวจตราปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้และความผิดอื่นๆ และตรวจมาถึงบริเวณจุดจอดเรือบ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่พบรถกระบะจอดอยู่ริมท่าน้ำอย่างมีพิรุธ จึงได้แสดงตนเพื่อขอตรวจค้น เมื่อคนขับรถเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ขับรถออกจากพื้นที่เพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตาม พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณหลังบ้านบ้านเลขที่ 26 หมู่ 2 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งเป็นบ้านของผู้กว้างขวางรายหนึ่งของอำเภอสังคม ส่วนคนขับรถได้ดับเครื่องยนต์พร้อมถอดเอากุญแจรถและอาศัยความมืดหลบหนีไปได้

        เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดรถตรวจสอบ พบไม้ประดู่ จำนวน 2 แผ่น/เหลี่ยม ไม่ชิงชัน จำนวน 19 แผ่น/เหลี่ยม ซุกซ่อนเต็มคันรถ วัดจำนวนปริมาตรได้ 1.869 ลบ.ม. จึงได้ทำการตรวจยึดและนำมาทำการบันทึกรายละเอียดที่บัญชาการณ์ ทางยุทธวิธี สุรศักดิ์มนตรี (พิทักษ์สังคม) ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย  ก่อนส่งของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.สังคมดำเนินการและเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ทีมข่าว/หนองคาย





โจรงัดบ้านชาวท่าบ่อกลางวันแสกๆ สูญพระเครื่องกว่า 1 แสนบาท (มีคลิป)




หนองคาย - โจรบุกงัดบ้านชาวท่าบ่อ จ.หนองคาย เข้าไปขโมยทรัพย์สินอย่างใจเย็นในกลางวันแสกๆ กวาดพระเครื่องกว่า 200 องค์ไปได้ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท หลังเจ้าของบ้านกำลังขายอาหารตามสั่งอยู่หน้าบ้าน คาดเป็นคนในหมู่บ้าน

       วันนี้ (7 พ.ค. 2561) ที่ห้องสืบสวน สภ.ท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายบุญทัน พารี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 4 บ้านป่าสักใต้ ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้นำฝาพลาสติกปิดปากกล่องใส่พระเครื่องมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน หลังคนร้ายได้ทิ้งไว้ในสวนหลังบ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายนิ้วมือแฝงของคนร้าย

        นายบุญทัน พารี เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้ามางัดบ้านของตน ซึ่งมีบ้านทั้งหมด 3 หลัง โดยหลังแรกเป็นของพ่อตาและแม่ยายอาศัยอยู่ หน้าบ้านเปิดขายอาหารตามสั่ง หลังที่ 2 เป็นหลังที่คนร้ายงัด มีลูกชายกับลูกสะใภ้อาศัยอยู่ แต่ทั้งสองคนไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงานในตัวเมืองท่าบ่อ ซึ่งขณะนั้นตนกำลังฉีดยากำจัดปลวกรอบๆตัวบ้าน ก็สังเกตเห็นประตูห้องครัวข้างบ้านเปิดอยู่ จึงเดินเข้าไปดูก็พบว่ามีรอยงัด จึงเข้าไปสำรวจภายในตัวบ้าน ชั้นล่างไม่พบสิ่งผิดปรกติ แต่ชั้นบนพบพระเครื่องที่อยู่ห้องพระได้หายไป ซึ่งมีพระเครื่องอยู่ในกล่องพลาสติกที่สะสมมานาน 10 ปี กว่า 200 องค์ได้ถูกขโมยไป รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ทรัพย์สินอย่างอื่นยังอยู่ครบ




      ด้านนางทองพูล แก้วพ่วง อายุ 74 ปี เล่าว่า ขณะนั้นตนกำลังขายอาหารตามสั่งอยู่หน้าบ้าน ช่วงก่อนเกิดเหตุได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนกระทั้งเวลาประมาณ 15.00 น.นายบุญทัน(ลูกเขย) เดินมาบอกตนว่ามีโจรมาขโมยพระเครื่องไป จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ คาดว่าหัวขโมยเข้ามาตรงบริเวนสวนหลังบ้าน ช่วงที่ฝนหยุดตกแล้ว และทุกคนนั้นอยู่หน้าบ้านหลังแรกกันหมด

        ทั้งนี้มีชาวบ้านได้บอกว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกหมู่บ้าน เนื่องจากเห็นผู้ต้องสงสัยป้นเปี้ยนอยู่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เหมือนมาดูพฤติกรรมของคนในบ้าน ก่อนอาศัยจังหวะที่ทุกคนอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วบุกเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้านอย่างใจเย็น ซึ่งบุคคลต้องสงสัยเคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์อยู่หลายครั้ง ซึ่งหลังเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นผู้ต้องสงสัยสองคน เดินเท้าออกจากป่าละเมาะและเดินไปทางเหนือของหมู่บ้าน 


       โดยเจ้าหน้าที่ได้นำกล่องพลาสติกบรรจุพระเครื่อง ที่คนร้ายได้ทิ้งไว้ที่สวนหลังบ้านไปตรวจสอบรายนิ้วมือแฝงของคนร้าย เพื่อตรวจสอบในแฟ้มประวัติอาชญากรรม และจะนำตัวโจรรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.






วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองสนธิกำลังเข้าตรวจสอบกองไม้บ้านนายตำรวจ ในพื้นที่ชุมชนป่าตาล เจ้าของไม้หอบหลักฐานยืนยันได้มาอย่างถูกต้อง



หนองคาย – เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองสนธิกำลังเข้าตรวจสอบกองไม้เตรียมไว้สร้างบ้านของนายตำรวจคนหนึ่ง ในพื้นที่ชุมชนป่าตาล เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ หลังได้รับแจ้ง  เจ้าของไม้หอบหลักฐานยืนยันไม้ทั้งหมดได้มาอย่างถูกต้อง

      เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา นายเอกชัย เทพกิจ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ นค.1 (สังคม), ร.ต.ศราวุฒิ ปาระศรี ผบ.หมวด รส.ที่ 2 กกล.รส.จว.หนองคาย, นายภาคิน คันธรินทร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอท่าบ่อ, ร.ต.อ.ประทีป แควภูเขียว รอง สว.กก.3 บก.ปทส., เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ, เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 ประจำ สปป.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป่าไม้, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ, เจ้าหน้าที่กองร้อย อส.จังหวัดหนองคาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบกองไม้ภายในบ้านของนายตำรวจคนหนึ่ง ในพื้นที่ชุมชนป่าตาล เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกองไม้ปริศนาคาบ้านคนมีสี กำหลังก่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัย

       จากการตรวจสอบพบมีไม้ท่อนและไม้แปรรูปจำนวนมาก ประกอบด้วย ไม้สักท่อน จำนวน 120 ท่อน ไม้แดงท่อน จำนวน 4 ท่อน และไม้เต็งท่อน จำนวน 18 ท่อน ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 144 แผ่น โดยไม้สักท่อนนั้น  นายตำรวจเจ้าของไม้ได้นำหลักฐาน หนังสือแสดงบัญชีไม้ที่ได้มาจากการทำสวนป่า สป.15 เล่มที่ นค.23/2560 ฉบับที่ 16 ลง 5 มกราคม 2561 รวมจำนวน 40 ท่อน และหนังสือแสดงบัญชีไม้ที่ได้มาจากการทำสวนป่า เล่มที่ 28/2560 ฉบับที่ 17 ลง 5 มกราคม 2560 รวมจำนวน 80 ท่อน ได้มาจากการทำสวนป่าตามหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่า เล่มที่ 21 ฉบับ 2 ลง 7 พ.ย. 2560 หนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนตรา รูปรอยตรา นค 712 เล่มที่ 18 ฉบับที่ 32 ลง 7 พ.ย. 2560 และหนังสือรับรองการแจ้งตัดหรือโค่นไม้ที่ได้มาจากการทำสวนป่า เล่มที่ 12 ฉบับที่ 37 ลง 22 ธ.ค. 2560 ตัดท่อนได้จำนวน 623 ท่อน




        ในส่วนของไม้แดงท่อน จำนวน 4 ท่อน เจ้าของไม้ได้นำหลักฐานใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ เล่มที่ 16176 เลขที่ 66 ลง 5 พ.ย. 2560 ได้รับซื้อจากนายตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งได้ซื้อมาจากการประมูลขายไม้ องค์การอุตสาหกรรมไม้ และไม้เต็งท่อน จำนวน 18 ท่อนนั้น เป็นไม้ที่ซื้อจากที่ดินกรรมสิทธิ์ โฉนดที่ดินเลขที่ 30600 เล่มที 306 หน้า 300 โดยซื้อจากชาวบ้าน เลขที่ดิน 50 ท้องที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ส่วนไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 144 แผ่น ได้ซื้อมาจากร้านสงกรานต์ค้าไม้ เลขที่ 167 หมู่ที่ 6 ริมถนนท่าบ่อ-บ้านผือ ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ใบสั่งของเลขที่ 18 ลง 25 ม.ค. 2561

       จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าไม้ดังกล่าวมีเอกสารหลักฐานนำมาแสดง คณะเจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาแล้ว มีความเห็นร่วมกันว่า ไม้ดังกล่าวน่าจะเป็นไม้ที่ได้โดยชอบด้วยกฏหมายจริง ไม่พบการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และกฎหมายอื่นแต่อย่างใด ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้ ทางคณะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำตามอำเภอใจ และไม่ได้กลั่นแกล้งและข่มขู่ผู้อื่นแต่อย่างใด


       ด้านนายตำรวจ เจ้าของไม้ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม้จำนวนดังกล่าวนั้น เป็นไม้ที่ซื้อมาโดยได้ขออนุญาตตามข้อกฎหมายทุกอย่าง ดั่งหลักฐานข้างต้น และไม้ดังกล่าวนั้นตนนำมาเพื่อรอทำการก่อสร้างบ้านเป็นที่อยู่อาศัย การที่มีคนไปแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งตนให้ได้รับความเสียหาย ตนขอยืนยันว่าไม้ทั้งหมดได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ.




จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...