เพิ่มขีดความสามารถการท่องเที่ยวริมโขง!!...จังหวัดหนองคาย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองคาย ร่วมกับบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศิลปากร ประชุมขับเคลื่อนชุมชนต้นแบบ ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะและวัฒนธรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว

       วันที่ 26 มิ.ย. 2561 ที่ ห้องประชุมโรงแรมรอยัลนาคารา อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายรณชัย   จิตรวิเศษ  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการ ประชุมขับเคลื่อนชุมชนต้นแบบบ้านปะโค ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะและวัฒนธรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว โดยมี ผศ.ดร.ณัฎฐพล  สุวรรณกุศลส่ง รองคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยฝ่ายศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้กล่าวรายงาน

          

        การประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลการดำเนินงานและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของชุมชนต้นแบบบ้านปะโค ตำบลปะโค อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เพื่อแพร่ผลผลิต/ผลิตภัณฑ์ของชุมชน ภายใต้โครงการ เพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว การประชุมครั้งนี้หัวในสำคัญคือ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น ที่มีอยู่ในชุมชน เพื่อตอบโจทย์ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ในด้านต่างๆ ตลอดจนการสร้างความรักความหวงแหนศิลปะและวัฒนธรรมให้กับชุมชน เสริมสร้างรายได้ให้กับชุมชน

             

        ซึ่งผลผลิต/ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการพัฒนาของชุมชนต้นแบบบ้านปะโค ที่สามารถนำออกเผยแพร่ ประกอบด้วย ด้านการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรม ด้านการพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์  ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอาหาร ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพ และ ด้านพัฒนา/สร้างกลุ่มวิสาหกิจชุมชน

            

        จากนั้น ผศ.ดร.ณัฎฐพล  สุวรรณกุศลส่ง รองคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยฝ่ายศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า  โครงการเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะและวัฒนธรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว โดยการพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำโขงและมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะและวัฒนธรรมจังหวัดละ 1 แห่ง คือ จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร เพื่อสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 21 ที่ต้องการให้ประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวสูงขึ้น เพื่อเดินหน้าไปสู่ประเทศไทย 4.0 ในด้านต่างๆ เช่น  การให้คนในชุมชนได้เรียนรู้ถึงการพึ่งพาตนเอง สร้างความเข้มแข็งจากภายใน สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการชุมชน โดยให้วิสาหกิจชุมชนได้เรียนรู้การสร้างนวัตกรรม การแปรรูปวัตถุดิบต่างๆ ที่มีอยู่ในชุมชน ให้เป็นสินค้าที่มีราคาเพิ่มขึ้น  วางแผนการท่องเที่ยวของชุมชน

          

       สำหรับจังหวัดหนองคาย มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เลือกชุมชนปะโค ตำบลปะโค อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เป็นพื้นที่ในการพัฒนา เนื่องจากชุมชน ปะโค มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานรักอุสาบารส มีพระธาตุโพนจิกเวียงงัว เชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในตำนานอุรังคธาตุ และพระธาตุบุซึ่งมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าและพญานาค และจะเป็นจุดขายอีกจุดหนึ่งของการท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย

สุขภาพดี..ไม่มีขาย!!..รพ.สต.นาข่า จัดการแสดงเต้นบาสโลบ ในโครงการสร้างเสริมสุขภาพ 3 อ.2 ส. ประจำปี 2561 เพื่อเป็นต้นแบบการสร้างกระแสส่งเสริมสุขภาพการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย

       วันที่ 26 มิ.ย. 2561 ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาข่า(รพ.สต.นาข่า) อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายชาญชัย บุญญานาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาข่า เป็นประธานเปิดโครงการสร้างเสริมสุขภาพ 3 อ.2  ส. ได้แก่ อ.อาหาร อ.ออกกำลังกาย อ.อารมณ์ดี ส.ไม่สูบบุหรี่ และ ส.ไม่ใช้ยาเสพติด  ประจำปี 2561 โดย รพ.สต.นาข่า นำโดย จ่าเอกธนาชัย เพริศพริ้ง รักษาการในตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.นาข่า ร่วมกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ แกนนำสร้างเสริมสุขภาพ และประชาชนทั่วไป จัดขึ้น

         โดยได้จัดการแสดงเต้นบาสโลบของทีมแกนนำสุขภาพและประชาชนทั่วไปทั้ง 8 หมู่บ้านในตำบลนาข่า เพื่อเป็นต้นแบบการสร้างกระแสส่งเสริมสุขภาพการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย และเพื่อจัดตั้งชมรมสร้างเสริมสุขภาพ และสนับสนุนให้มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และต่อเนื่องยั่งยืน รวมไปถึงการให้ทุกกลุ่มทุกวัยมีความรู้ความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพอนามัยของตัวเอง ทั้งด้านโภชนาการ การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 114 คน.

พัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพแก่ ครู พี่เลี้ยง และผู้ปกครอง ที่รับบริการสถานสงเคราะห์เด็กและสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน

       วันที่ 26 มิ.ย. 2561   ที่ ห้องประชุมโรงแรมพันล้าน บูติค รีสอร์ท อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายสุชาติ  ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฎิบัติการพัฒนาส่งเสริมศักยภาพแก่ ครู พี่เลี้ยง  และผู้ปกครอง ที่รับบริการสถานสงเคราะห์เด็กและสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน  โดยมี นางบุญรดา  ทัพมงคล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย เป็นผู้กล่าวรายงาน

           

       เนื่องในปัจจุบัน รัฐบาลมรนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน ให้การพัฒนาเด็กและเยาวชนของชาติโดยเฉพาะเด็กเล็ก หรือเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นวัยที่สำคัญของการปูพื้นฐานชีวิตของเด็กในวัยนี้ ต้องได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักความอบอุ่นอย่างเพียงพอจากผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ เพื่อเป็นการวางรากฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิต มาตรฐานในการเลี้ยงดูเด็กในทุกด้าน ซึ่งจะส่งผลให้เด็กมีการพัฒนาที่เหมาะสมตามวัย

       พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย จึงได้จัดประชุมเชิงปฎิบัติการครั้งนี้ขึ้น เพื่อ ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพแก่ ครู พี่เลี้ยง  และผู้ปกครอง ที่รับบริการสถานสงเคราะห์เด็กและสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน สร้างความเข้าใจผู้ปกครอง  เฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย ในการเลี้ยงดูเด็กให้เหมาะสมกับวัย และปฎิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยการฝึกทักษะส่งเสริมพัฒนการของเด็ก ให้เด็กมีการจำและใช้ข้อมูลอย่างเหมาะสม รู้จักให้เกียรติผู้อื่น คิดก่อนทำและปรับการกระทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ ทั้งที่บ้านและสถานสงเคราะห์เด็ก/สถานที่รับเลี้ยงเด็กเอกชน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก  เป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองอย่างมีประสิทธิภาพ ระดมความคิดเห็น กำหนดแนวทางการขับเคลื่อน พัฒนาเด็กปฐมวัยจังหวัดหนองคาย ให้มีความชัดเจนเป็นแนวทางเดียวกัน ทำงานร่วมกันแบบบูรณาการได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ  ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 101คน

เหล้าเปลี่ยนนิสัย...ทำให้คนเป็นมือสังหาร!!..ตำรวจท่าบ่อ คุมตัวผู้ต้องหาใช้มีดอีโต้ฆ่าญาติของตัวเองคากระท่อม สาเหตุแค้นผู้ตายใช้ขวดเหล้าตีศรีษะลูกชายตัวเองได้รับบาดเจ็บ

      วันที่ 25 มิ.ย. 2561 พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.ท่าบ่อ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ  พ.ต.ท.วิริยภาพ วิริยะวังพรม สว.อก. ปฏิบัติหน้าที่ สว.สส.สภ.ท่าบ่อ  พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ ร.ต.อ.(หญิง)นงคราญ หันจางสิทธิ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.หนองคาย ควบคุมตัวนายคำมูล บุตรเทศ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 5 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ผู้ต้องหาฆ่านายชำนาญ สุขสบาย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 5 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

       โดยเหตุการณ์ฆ่ากันตายเกิดขึ้นที่ภายในกระท่อม หมู่ที่ 5 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ ริมถนนทางหลวงชนบท บ้านอุ่มเย็น-บ้านดงบัง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 มิ.ย. โดยนายคำมูล ได้ใช้อาวุธมีดอีโต้ฟันเข้าที่บริเวณท้ายทอยของนายชำนาญจนเสียชีวิต แล้วก็นั่งอยู่กับผู้ตายโดยไม่ได้หนีไปไหน

       ร.ต.อ.(หญิง)นงคราญ หันจางสิทธิ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ  กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 ว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่บริเวณกระท่อมดังกล่าว เมื่อไปถึงที่เกิดเกตุ พบผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นจมกองเลือดอยู่ บริเวณศรีษะช่วงท้ายทอยมีแผลถูกของมีคมฟันเป็นแผลฉะกัน บนกระท่อมพบมีชายสามคนนั่งอยู่ โดยมีชายสองในสามคนมือชี้ไปยังนายคำมูล แล้วบอกว่า “คนนี้เป็นมือสังหาร”

       สอบสวนนายคำมูลสารภาพว่า ตนพร้อมด้วยผู้ตายและลูกชายของตน ทราบชื่อว่านายอรุณ บุตรเทศ อายุ 30 ปี และเพื่อนของผู้ตายอีก 2 คน รวมเป็น 5 คน ได้นัดกันดื่มสุราที่กระท่อมของผู้ตาย โดยจะนัดกันดื่มกันทุกวัน ซึ่งในวันที่ก่อเหตุได้นัดดื่มสุรากันตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งทั้ง 5 คนได้ดื่มสุราไปทั้งหมด 3 ขวด จนกระทั้งเวลาประมาณ 17.00 น. ลูกชายตนได้ขอตัวไปนอนที่เปลหน้ากระท่อม และในวงสุราก็เริ่มมีการพูดกระทบกระทั่งกัน จนทำให้ผู้ตายไม่พอใจ เดินถือขวดสุราไปตีที่ศรีษะของลูกชายตนที่นอนอยู่ที่เปล จนทำให้ศรีษะลูกชายตนแตก และลูกชายตนก็ได้ต่อว่าผู้ตายแล้วก็เดินกลับบ้านไป  ตนเห็นดังนั้นจึงต่อว่าผู้ตายไปว่า “มึงไปตีศรีษะลูกกูทำไม ท่ามึงอยากตีก็มาตีกับกู้นี้”  เมื่อสิ้นคำพูดผู้ตายก็ปรี่ขึ้นมาบนประท่อม หวังที่จะทำร้ายตน แต่เท้าของผู้ตายเลื่อนตกบันไดเสียก่อน ตนเห็นดังนั้นก็คว้ามีดอีโต้ที่วางอยู่บริเวณลำโพงเครื่องเสียง แล้วกระโดดลงจากกระท่อม ใช้มีดอีโต้ฟันไปที่บริเวณท้ายทอยของผู้ตายหลายครั้งจนแน่นิ่ง แล้วขึ้นไปนั่งดื่มสุราต่อ จนถูกเจ้าหน้าที่จับได้ในที่สุด

      ทั้งนี้ทราบว่าผู้ต้องหาและผู้ตายนั้นเป็นญาติกัน โดยผู้ตายพึ่งออกจากคุกมาได้ 3 วัน ในคดีดมสารระเหย(ดมกาว) ส่วนพยานที่นั่งด้วยกัน 2 คนก็ยังให้การไม่ได้ เนื่องจากคนหนึ่งสติไม่สมประกอบ อีกคนก็เป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม อยู่ในอาการมึนเมาให้การไม่ได้ ส่วนลูกชายของผู้ต้องหาก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากกลับบ้านก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมตรวจสอบทั้งพยานแวดล้อมและพยานหลักฐานรอบด้าน เพื่อประกอบสำนวนสอบสวนเอาผิดกับผู้ต้องหา จึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาว่า ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

นักพนันไก่ชนวิ่งหนีแตกกระเจิง!!..เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ บุกจับบ่อนไก่ชนเถื่อน รวบนักพนันทั้งหมด 13 ราย ยึดไก่ชน 4 ตัว โพยสลาก 2 แผ่น หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีการลักลอบเล่นการพนันชนไก่ท้ายหมู่บ้าน

       วันที่ 22 มิ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดหนองคาย ได้รับร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีการลักลอบเล่นการพนันชนไก่ บริเวณสนามไก่ชนท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 372 หมู่ที่ 4 บ้านนาโพธิ์ ตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย จึงสั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็ว นำโดยนายกองตรีธวัชชัย กงเพชร ผบ.ร้อย อส.จังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่กองบังคับการอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดหนองคาย สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่, เจ้าหน้าที่ทหารหมวดรักสาความสงบที่ 2 กกล.รส.จังหวัดหนองคาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบ

       เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนักพนันกำลังจับกลุ่มเล่นพนันไก่ชนกันอย่างสนุกสนานกว่า 100 คน ทันที่ที่เห็นเจ้าหน้าที่ต่างตกใจวิ่งหนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง บางคนวิ่งเข้าป่าละเมาะ บางคนวิ่งเข้าสวนปาล์ม บางคนวิ่งลงทุ่งนา เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ตาม จนสามารถจับกุมไว้ได้ 13 คน ที่เหลือหลบหนีไปได้ พร้อมอุปกรณ์เล่นพนันชนไก่ ประกอบด้วย ไก่ชน 4 ตัว สุ่มไก่ 4 ใบ และโพยสลากในการรับแทงพนันชนไก่ 2 แผ่น

       เบื้องต้นทราบว่ามีนายวิชัย จันเดียว อายุ 55 ปี  รับเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าเป็นการชนไก่โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงแจ้งข้อหาจัดให้มีการพนัน(ชนไก่) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต  ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีเล่นการพัน(ชนไก่) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.