บานแล้ว “ทะเลบัวแดง”ที่หนองคาย ผู้ว่าฯหนองคาย ขึ้นเรือถ่ายพรีเวดดิ้งที่วังบัวแดง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยว

หนองคาย - บานแล้ว “ทะเลบัวแดง” จากธรรมชาติสร้างขึ้นที่หนองบ่อ อำเภอเมืองหนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมคณะ ขึ้นเรือถ่ายพรีเวดดิ้งที่วังบัวแดง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมบัวแดงที่กำลังบานสะพรั่งเต็มพื้นทีกว่าสองพันไร่ พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มกราคมนี้

       เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (5 ม.ค. 2561) ที่วังบัวแดง บ้านหนองบ่อ ตำบลปะโค อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย, นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดหนองคาย และคณะ ได้ขึ้นเรือที่ใช้บริการนักท่องเที่ยว เพื่อไปขึ้นโป๊ะถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมบัวแดงที่กำลังบานสะพรั่งเต็มพื้นทีกว่า 2,800 ไร่ เป็นการบ่งบอกว่า เทศกาลท่องเที่ยวทะเลบัวแดง ที่วังบัวแดงหนองคายได้เริ่มขึ้นแล้ว

         ทั้งนี้ ทะเลบัวแดง หรือ วังบัวแดง เป็นหนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 4,768 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ตำบลปะโค ตำบลเวียงคุก อำเภอเมืองหนองคาย มีพื้นที่ที่มีบัวแดงประมาณ 2,800  ไร่ ซึ่งในระยะ 2  ปีที่ผ่านมาที่บริเวณบ้านหนองบ่อ ตำบลปะโค ไม่มีดอกบัวให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงาม เนื่องจากมีการขุดลอกหนองบ่อ  ส่วนปีนี้ดอกบัวบานสะพรั่งตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา มีธรรมชาติที่สวยงาม ดอกบัวมีขนาดใหญ่หลากหลายสี ทั้งสีแดง ชมพูสลับกับสีขาว สวยงามมาก และเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี และขณะนี้มีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวที่จะมาสัมผัสความงามของวังบัวแดงที่บ้านหนองบ่อแล้ว โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มกราคมที่จะถึงนี้

       สำหรับการเดินทางไปชมทะเลบัวแดง ที่วังบัวแดงบ้านหนองบ่อ เพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจอย่างคุ้มค่าควรมีการวางแผนตั้งแต่การเดินทางและเวลาที่เหมาะสมในการชม ด้วยธรรมชาติของดอกบัวสาย หรือบัวแดง นั้นจะบานในช่วงเช้าตรู่ตั้งแต่เวลาเลา 05.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งช่วงเวลา 05.00 น. – 07.30 น. จะเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวบานสวยที่สุด การเดินทางนั้นไม่ไกล สะดวก มีป้ายบอกตลอดเส้นทาง  โดยจะมีเรือของชาวบ้านไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวโดยไม่จำกัดเวลา และมีโป๊ะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบถ่ายเซลฟี่ไว้คอยอวดเพื่อนๆ ในโลกโซเชียลด้วย.

หนองคาย จุดจบหนุ่มมวนหน้าฮ้านหมอลำ! หนุ่มใหญ่ชาวกองนาง ถูกเจ้าถิ่นรุมยำปางตาย ต้องหามส่ง รพ. สุดท้ายดับที่บ้าน

หนองคาย - จุดจบหนุ่มมวนหน้าฮ้านหมอลำ! หนุ่มใหญ่วัย 43 ชาวบ้านกองนาง อ.ท่าบ่อ ออกไปเต้นหน้าเวทีหมอลำงานวัดช่วงปีใหม่ ถูกเจ้าถิ่นต่างตำบลรุมยำปางตาย เจ้าหน้าที่ต้องหามส่ง รพ. สุดท้ายกลับไปตายที่บ้าน

       เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ม.ค. 2560  ร.ต.อ.พิชัย กงทิพย์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตในบ้านพักโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่หมู่ 1 บ้านกองนาง ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าบ่อ, แพทย์เวรจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ  และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยร่วมใจอำเภอท่าบ่อ

       ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพผู้เสียชีวิตนอนบนเตียงนอนภายในตัวบ้าน ทราบชื่อว่า นายมงคล  บุญเลิศ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170  หมู่ที่ 1 ตำกองนาง อำท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย สภาพนอนหงายหน้า สวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้น คลุมด้วยเสื้อแขนยาวกันหนาวสีดำ สวมกางเกงยีนขายาว คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 ชั่วโมง ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องลอยการต่อสู้

       จากการสอบถามญาติผู้ตาย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์จุดอำเภอท่าบ่อมาส่งนายมงคล จึงทราบว่า นายมงคลถูกรุมตีที่หน้าเวทีหมอลำ อาการปางตาย ในคืนวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ในงานฉลองปีใหม่ที่วัดแห่งหนึ่ง ที่บ้านท่าสำราญ ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้กู้ภัยฯมานำตัวนายมงคลไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จากนั้นก็นำมาส่งถึงบ้าน จนกระทั้งเช้าของวันที่ 3 ม.ค. ก็พบว่านายมงคลได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

       ด้านแพทย์ระบุ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 - 4 ชั่วโมง  ส่วนสาเหตุการตายน่าจะเกิดจากหัวใจวายเฉียบพลัน  ทั้งนี้ทั้งนั้นทางญาติๆ ไม่ติดใจอะไรในการเสียชีวิตของนายมงคล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้ญาตินำผู้ตายไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.

ภาพ : กู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ

หนองคาย สลดปิดท้าย 7 วันอันตราย! รถกระบะชนสาวประเภทสอง ร่างกระเด็นไปกว่า 50 ม. กลางถนนเจ็บสาหัส ดับที่ รพ. ก่อนซิ่งหลบหนี

หนองคาย - สลด! สาวประเภทสองชาวท่าบ่อ ถูกรถกระบะเสยกระเด็นไปกว่า 50 ม. ขณะที่กำลังเดินข้ามถนน ได้รับบาดเจ็บหาหัส เจ้าหน้าที่พยายามยื้อชีวิต สุดท้ายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลฯ ส่วนคนขับกระบะหลบหนี ปิดท้าย 7 วันอันตราย

       เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 ม.ค. 2561  ร.ต.อ.พิชัย กงทิพย์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ท่าบ่อ ว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะชนคนเดินข้ามถนนได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนท่าบ่อ-บ้านผือ หน้าดีเอ็มรีสอร์ท บ้านนาช้างน้ำ ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ

       ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เป็นสาวประเภทสองชื่อ นายสมภาร  นินทระ อยู่บ้านเลขที่ 134. หมู่ 10 ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ซึ่งชาวบ้านในละแวกนั้นรู้จักกันดี นอนสลบอยู่กลางถนนได้รับบาดเจ็บสาหัส ใส่เสื้อยืดสีดำแขนสั้น คลุมด้วยเสื้อแขนยาวกันหนาว กางเกงยีนส์ขายาว และห่างจากจุดถูกชนประมาณ 50  เมตร ส่วนกระบะคู่กรณีได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต และทำการปฐมพายบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลฯ สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลฯ

       จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า นายสมภาร ซึ่งชาวบ้านทราบกันดีว่าเป็นสาวประเภทสอง ขณะที่นายสมภารกำลังเดินออกจากปากซอยและกำลังเดินข้ามถน รถกระบะคันก่อเหตุวิ่งมาจากบ้านดอนขม จะเข้าตัวเมืองท่าบ่อด้วยความเร็ว จึงชนนายสมภารอย่างจังกระเด็นลอยไปกว่า 50 เมตร ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ส่วนคนขับรถกระบะได้หลับหนีไปทางตัวเมืองท่าบ่อ ซึ่งการเสียชีวิตของนายสมภารครั้งนี้ เป็นการปิดท้าย 7 วันอันตรายช่างเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2561 ของจังหวัดหนองคายอีกด้วย

       อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และจะเร่ง ติดตามรถกระบะที่ขับหนีมาดำเนินคดีต่อไป.

ภาพ : กู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ

วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 80 ปี เทคนิคหนองคาย

หนองคาย – วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 80 ปี เทคนิคหนองคาย เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อบูรพาจารย์และศิษย์เก่า ที่ได้ร่วมสร้างและพัฒนาสถานศึกษา

       เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (3 ม.ค. 2561) ที่ลานกีฬาและนันทการ วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในการเปิดงานวันสถาปนาครบรอบ 80 ปี วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อบูรพาจารย์และศิษย์เก่า ที่ได้ร่วมสร้างและพัฒนาสถานศึกษา อีกทั้งจังเป็นการให้บุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ นักเรียนนักศึกษา ได้เรียนรู้ถึงพัฒนาการของสถานศึกษาและแนวทางในการพัฒนาในอนาคต

       ด้านนายอุดมภูเบศวร์ สมบูรณ์เรศ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย กล่าวว่า  วิทยาลัยเทคนิคหนองคายได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2481 ในนามโรงเรียนช่างไม้หนองคาย  ได้ยกฐานะเป็นโรงเรียนการช่างหนองคายในปี พ.ศ. 2508 และได้ยกฐานะเป็นโรงเรียนเทคนิคหนองคาย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2522 และได้ยกฐานะอีกครั้งเป็นวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย และในปี พ.ศ. 2555 ได้รับการยกฐานะเป็นสถานศึกษาสังกัดสถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1

  

       ปัจจุบันวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย มีครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 195 คน นักเรียนนักศึกษา 3,400 คน จัดการเรียนการสอนใน ระบบทวิภาคี ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ, ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง, ระดับปริญญาตรี, ทั้งนี้ยังได้มีการมอบโล่เกียรติคุณแก่ผู้ทำคุณประโยชน์แด่วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย จำนวน 45 ราย,

หนองคาย ชาวบ้านสืบสานประเพณีฟ้อนนางเทียม เพื่อทำบุญกฐินถวายผีปู่ตา

หนองคาย – ชาวบ้านสืบสานประเพณีฟ้อนนางเทียม เพื่อทำบุญกฐินถวายผีปู่ตา แสดงออกให้เห็นถึงความกตัญญูกตเวทีต่อปู่ตา ที่ได้คอยปกปักษ์รักษาหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากภัยพิบัติต่างๆ มาโดยตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

        วันนี้ (3 ม.ค. 2561) ที่บ้านของนางบุญเรือน แสงรุ่ง เลขที่ 9 หมู่ 9 ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านได้ร่วมกันสืบสานประเพณีฟ้อนนางทียม เพื่อทำบุญกฐินถวายผีปู่ตา ซึ่งก่อนเข้าสู่พิธี นางเทียมได้แต่งองค์ทรงเครื่องในชุดผ้าไหมสีต่างๆ แบบนักรบโบราณ มือสองข้างถือมีดดาบ และจัดพาข้าวไปไว้ที่กลางถนนของหมู่บ้าน จากนั้นก็ร่ายรำเพื่อเป็นการเบิกทางให้กับผีปู่ตาเข้ามาในพิธี

       นางบุญเรือน กล่าวว่า ประเพณีฟ้อนนางเทียมเพื่อถวายกฐินผีปู่ตา จะจัดขึ้นในวันที่ 3 ของเดือนแรกในปีพุทธศักราชใหม่เป็นประจำทุกๆ ปีเวียนกันไปปีละครั้ง ซึ่งนางเทียมทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชายจะมารวมตัวกันจัดเครื่องเซ่นไหว้ที่มีทั้งอาหารคาวหวาน เหล้ายา พลไม้ชนิดต่างๆ ต้นมงคลที่เป็นต้นอ้อย และอ่างน้ำมนต์ ร้อมรอบเครื่องเซ่นไหว้ด้วนผาขาว จากนั้นนางเทียมก็จะแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดไหมสีต่างๆ เปรียบเสมือนนักรบโบราณ มาถือดาบร่ายรำถวายผีปู่ตา ซึ่งในทุกปีต้องจัดพิธีบูชา เรียกว่า “พิธีบุญกฐินถวายผีปู่ตา” เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงความกตัญญูกตเวทีต่อปู่ตา ที่ได้คอยปกปักษ์รักษาหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากภัยพิบัติต่างๆ มาโดยตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

       ในพิธีจะมีจ้ำและนางเทียมทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบพิธีกรรม ซึ่งผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นจ้ำและนางเทียมได้นั้นจะต้องผ่านการคัดเลือกจากปู่ตา โดยจ้ำมีหน้าที่ในการเป็นสื่อกลางระหว่างปู่ตากับชาวบ้าน ส่วนนางเทียมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจ้ำและเป็นร่างทรงของปู่ตา เพื่อแสดงให้เห็นว่าปู่ตามาปรากฏตัวจริง และเมื่อปู่ตาเข้าทรงนางเทียมจะมีการฟ้อนเกิดขึ้น ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการฟ้อนของปู่ตาและบริวาร เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกจากหมู่บ้าน.