วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561

จังหวัดหนองคาย จัดงาน "ฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ใต้ร่มพระบารมี 191 ปี เมืองหนองคาย และงานกาชาด พ.ศ. 2561"



หนองคาย - จังหวัดหนองคาย จัดงาน "ฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ใต้ร่มพระบารมี 191 ปี เมืองหนองคาย และงานกาชาด พ.ศ. 2561" งานประเพณีและเป็นงานประจำปีของจังหวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน และรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของวีรชนในศึกสงครามปราบปรามกบฏฮ่อ


       วันที่ 5 มี.ค. 2561 ที่บริเวณลานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงพระชนมายุ 60 พรรษา  จังหวัดหนองคาย ได้จัดพิธีเปิดงานฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ใต้ร่มพระบารมี 191 ปี เมืองหนองคาย และงานกาชาด พ.ศ. 2561 ระหว่างวันที่ 5-13 มีนาคม 2561 โดยมีนายรณชัย จิตรวิเศษ  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และนางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย เป็นประธานประกอบพิธีพราหมณ์ และบายศรีเมือง จากนั้น นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ ได้ร่วมรำบายศรีเมืองพร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวหนองคาย กว่า 1,000 คน



       สำหรับปีนี้  สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคายได้จัดร้านมัจฉากาชาด นำของรางวัลมากมายมามอบโชคให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ลุ้นรางวัล อาทิเช่น รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งของรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย โดยคืนแรกมีของรางวัลใหญ่กว่า 200 ชิ้น ผู้ที่ต้องการลุ้นรางวัลเพียงซื้อบัตรราคา 20 บาท ก็สามารถตักมัจฉากาชาด 1 ใบ นอกจากนั้น ยังมีสลากกาชาด จำหน่ายใบละ 100 บาท เพื่อลุ้นรางวัลใหญ่ในวันที่ 13 มีนาคม 2561  กิจกรรมภายในงาน ยังมีการออกร้านของหน่วยงานราชการและเอกชน การจำหน่ายสินค้าโอท็อป สินค้าจากโรงงาน การแข่งขันกีฬา การแสดงแสงเสียง ตำนานสงครามปราบกบฏฮ่อการประกวดร้องเพลง การจัดถนนอาหาร และมีการแสดงของศิลปินชื่อดังให้ชมตลอดงาน   การจัดงานมีไปถึงวันที่  13 มีนาคม 2561



       งานฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ใต้ร่มพระบารมี 191 ปี เมืองหนองคาย และงานกาชาด พ.ศ. 2561  เป็นงานประเพณีและเป็นงานประจำปีของจังหวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน และรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของวีรชนในศึกสงครามปราบปรามกบฏฮ่อ อีกทั้งยังเป็นการจัดหาทุนสนับสนุนกิจกรรมของเหล่ากาชาด รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัด







วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2561

อำเภอศรีเชียงใหม่ และเมืองสีโคดตะบอง พัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครด้านสาธารณสุขชายแดน



หนองคาย – สาธารณสุขอำเภอศรีเชียงใหม่ ร่วมกับสาธารณสุขเมืองสีโคดตะบอง จัดการประชุม การพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครด้านสาธารณสุขชายแดน ระหว่างจังหวัดหนองคาย กับ นครหลวงเวียงจันทน์ เมืองคู่ขนาน อำเภอศรีเชียงใหม่ กับ เมืองสีโคดตะบอง

       วันนี้ (3 มี.ค. 2561) ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย สาธารณสุขอำเภอศรีเชียงใหม่ ร่วมกับสาธารณสุขเมืองสีโคดตะบอง จัดการประชุม การพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครด้านสาธารณสุขชายแดน ตามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างจังหวัดหนองคาย กับ นครหลวงเวียงจันทน์ เมืองคู่ขนาน อำเภอศรีเชียงใหม่ กับ เมืองสีโคดตะบอง โดยมี นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุม



       นายชาญชัย ชัยสว่าง สาธารณสุขอำเภอศรีเชียงใหม่ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดหนองคายและนครหลวงเวียงจันทน์ ได้มีการดำเนินความร่วมมือด้านสาธารณสุขชายแดนมาร่วม 20 ปี นับตั้งแต่เปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ในปี 2537 และได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านสาธารณสุขอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2549 และมีการดำเนินความร่วมมือมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านสาธารณสุขชายแดน (MOU) ระหว่างเมืองคู่ขนาน อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย และเมืองสีโคดตะบอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ในปี 2558, 2559 และฉบับปรับปรุงปี 2560 



       เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างเมืองคู่ขนาน อำเภอศรีเชียงใหม่กับเมืองสีโคดตะบอง ประปี 2561 ทั้งสองเมืองจึงได้จัดประชุมขึ้น เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในชุมชน/หมู่บ้าน ของอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน(อสม.), อาสาสมัครแรงงานต่างด้าว(อสต.) และอาสาสมัครหมู่บ้าน(อสบ.) ในการควบคุมโรคตามแนวชายแดน ผ่านช่องทางจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ และด่านหนองดา เมืองสีโคดตะบอง โดยมีกิจกรรมในการประชุมคือ การประชุมเชิงปฏิบัติการ, การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปฏิบัติงาน, การวิเคราะห์ข้อมูลในชุมชน และการพัฒนาความรู้ของโรคติดต่อในชุมชนตามแนวชายแดน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ตัวแทนผู้เกี่ยวข้องด้านโรคติดต่อเมืองสีโคดตะบอง นำโดย ดร.หาแพง โพมมะลาด หัวหน้ากองการสาธารณสุขเมืองสีโคดตะบอง, แพทย์, บุคลากรสาธารณสุข. อสม., อสต., อสบ. จากอำเภอศรีเชียงใหม่ และเมืองสีโคดตะบอง จำนวน 50 คน.










ฝ่ายปกครอง ทหาร ป่าไม้ ตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูปซุกในสวน



หนองคาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังทหารและป่าไม้ เข้าตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูปซุกในสวน ขยายผลติดตามบ้านแม่ยายพบไม้อีกจำนวนมากและซุกในสระน้ำ แต่ ยังไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ

       กลางดึกวันที่ 2 มี.ค. 2561 ที่บริเวณสวนหลังบ้าน โคกแมงเงา หมู่ที่ 8 ตำบลมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย   นายวันชัย สารภาค ปลัดอำเภอเมืองหนองคาย ร่วมกับ บัญชา  เตียงงา หน่วยปฎิบัติการพิเศษที่ 5 ประจำสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) นายประยงค์  มานะการ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาที่ นค 1 สังคม ร่วมกับทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดหนองคาย ชุดเฉพาะกิจอำเภอเมืองหนองคาย และชุดรักษาความปลอดภัยตำบลหนองกอมเกาะ และ เจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบบริเวณสวนหลังบ้าน โคกแมงเงา หมู่ที่ 8 ตำบลมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย หลังจากได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า ที่ดังกล่าวได้มีการลักลอบแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต  โดยที่ดินเป็นชื่อ นางจันทรา  ผาสุก บ้านเลขที่ 60 หมู่ 4 ต.มีชัย อำเภอเมืองหนองคาย เป็นเจ้าของ ภายใต้การอำนวยการของ นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย รักษาการ ปลัดจังหวัดหนองคาย พ.อ.ยุวัติ  ขันธะปรีชา ผบ.กกล.รส.ประจำจังหวัดหนองคาย
          


       จากการตรวจสอบพบภายในกระท่อมไม่พบผู้ใด พบไม้ประดู่แปรรูปซุกซ่อนอยู่ภายใน และข้างกระท่อมพบไม้ประดู่แปรรูปและยังไม่แปรรูปจำนวนมากวางกองรวมกัน และบางส่วนตัดเป็นท่อนเตรียมนำมาแปรรูป โดยใช้ดินและเศษไม้ปกปิดอำพรางไว้ ใกล้กันยังมีเตาเผาถ่าน พบเศษไม้จากการแปรรูปเตรียมไว้เผา เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต  จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเฝ้าเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และทำตรวจสอบอีกครั้งช่วงเช้า และเพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าของแสดงตัวพร้อมนำหลักฐานที่มาของไม้ทั้งหมดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตน



       จากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 3 มีนาคม 2561  เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบอีกรอบ พบไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 27 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร  1.421 ลูกบาศก์เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านนาไก่ ต.หนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย ต้องสงสัยอาจเกี่ยวข้องกับไม้ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงหน้าบ้านเขียนป้ายบ้านปริญทร พบกองไม้ท่อนจำนวนมากที่หน้าบ้าน แต่ไม่พบเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่บริเวณสระน้ำใกล้กัน พบร่องรอยการชักลาก จึงลงตรวจสอบพร้อมกับมนุษย์กบ พบไม้ประดู่แปรรูปขนาดต่างๆ จำนวน 17 แผ่น แช่อยู่ในน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้นำขึ้นมาบนฝั่ง วัดได้ 0.931 ลูกบาศก์เมตร  และไม่มีผู้ใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึด เพื่อรอให้เจ้าของไม้นำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่  หากไม่มีผู้แสดงตัวหรือ ไม่มีเอกสาร มายืนยัน เจ้าหน้าที่ต้องยึดไม้ทั้งหมดเป็นของกลางเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

       จากการตรวจสอบบริเวณรอบๆ  เจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณเสาไฟฟ้าทางเข้าพบมีการลักลอบต่อตรงไฟฟ้าโดยไม่ผ่านหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อนำไฟฟ้าไปใช้กับเครื่องแปรรูปไม้ ดังกล่าว.

มนเดช  รัตนติสร้อย / ภาพ









วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

ชาวบ้านในตำบลน้ำโมง อ.ท่าบ่อ สืบสานประเพณีถวายบั้งไฟแก่แม่ย่างาม


หนองคาย – ชาวบ้านในตำบลน้ำโมง อ.ท่าบ่อ สืบสานประเพณีถวายบั้งไฟแก่แม่ย่างาม ตามความเชื่อมาตั้งแต่โบราณ ให้แม่ย่างามช่วยคุ้มครองดูแลรักษาบ้านเมืองให้ปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุข มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์

       วันนี้ (2 มี.ค. 2561)  ที่วัดถ้ำย่างาม หมู่ที่ 2 บ้านน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีนางเทียมแต่งชุดไหมโบราณ มือถือมีดดาบร่ายรำรอบเจดีย์ที่ครอบปากถ้ำแม่ย่านาง 3 รอบ เพื่อนำบั้งไฟถวายให้แก่แม่ย่างาม ณ บริเวณหน้าหอแม่ย่างามข้างเจดีย์ มีชาวบ้านที่มาร่วมบุญจำนวนมาก ยืนดูการรำถวายของนางเทียม ถือว่าเป็นวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านตามฮีต 12 คอง 14 เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น โดยใช้เวลาในการรำถวายแม่ย่างามอยู่นานประมาณ 20 นาที เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะจุดบั้งไฟเสี่ยงทายขึ้นบนฟ้า




       พระครูวาปี ธรรมสังวร เจ้าอาวาสวัดถ้ำย่างาม กล่าวว่า ประเพณีถวายบั้งไฟแก่แม่ย่างาม เป็นความเชื่อกันมาตั้งแต่โบราณ โดยพิธีจะจัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำของทุกปีหลังเสร็จงานเทศกาลนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่าการถวายบั้งไฟให้กับแม่ย่างาม และทำการจุดบั้งไฟของแม่ย่างาม ที่เป็นบั้งไฟสำหรับเสี่ยงทายนั้น เพื่อให้แม่ย่างามช่วยคุ้มครองดูแลรักษาบ้านเมืองให้ปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุข มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย.





โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดหนองคาย ส่งเสริมสนับสนุนจัดตั้งกลุ่มอาชีพให้กับชุมชน


หนองคาย - โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดหนองคาย  ส่งเสริมสนับสนุนจัดตั้งกลุ่มอาชีพให้กับชุมชนที่อยู่ในและโดยรอบป่าพื้นที่โครงการพระราชดำริฯ  มอบเงินอุดหนุน เพื่อไปจัดตั้งกลุ่มอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน สามารถเลี้ยงต้นเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
            
       วันที่ 1 มี.ค. 2561 โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดหนองคาย  นายชัยพิชิต  สอนสมนึก  หัวหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดหนองคาย  จัดกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ในพื้นที่ป่า ซ่อมแซมปรับปรุงระบบกระจายเสียงหมู่บ้าน ที่ชำรุด ให้กลับมาใช้งานได้ดีสามารถสื่อสารข้อมูลข่าวสารสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนทุกครัวเรือนในชุมชน   ซ่อมแซมปรับปรุงบ้านพักที่อยู่อาศัย ของราษฎรผู้ยากไร้ที่ผ่านการประชาคมคัดเลือกของชุมชน  ให้มีที่อยู่อาศัยที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย ต่อการดำรงชีพ  เป็นกิจกรรมที่จะทำให้คนและชุมชนในป่า มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดำเนินการตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ ให้กับโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดหนองคาย และมอบเช็คเงินอุดหนุนจัดตั้งกลุ่มอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง บ้านห้วยหินขาว หมู่ 6 ตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย จำนวน 50,000 บาท ตามโครงการหมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่ม/ชุมชน ที่อาศัยอยู่รอบป่าในเขตโครงการพระราชดำริ และจัดทำงานส่งเสริมคุณภาพชีวิติให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ลดการทำลายบุกรุกป่าและสามารถพึงพิงป่า คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืนแบบพึ่งพากัน
         


       เป็นการดำเนินการตามโครงการหมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศป่าต้นน้ำในพื้นที่โครงการให้คงความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพื้นที่ป่าต้นน้ำและแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่โครงการ  ดูแลป้องกันพื้นที่ป่าสมบูรณ์ดั้งเดิมให้คงอยู่  ลดปัญหาการตัดต้นไม้ ทำลายป่า พัฒนาและเสริมสร้างจิตสำนึกของราษฎรในพื้นที่เป้าหมายให้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ เป้าหมาย พัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและพอเพียง ควบคู่กับการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าตามความเหมาะสม   ป้องกันรักษาป่าให้คงความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ  โดยชุมชนมีส่วนร่วมฟื้นฟูป่าให้กลับสมบูรณ์ตามธรรมชาติ เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

        เนื่องจากป่าผืนดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าผืนสุดท้ายของจังหวัดหนองคาย ที่คงมีอยู่ถึงแม้จะไม่มากแต่ก็ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของความเป็นป่าธรรมชาติ ที่จะเป็นมรดกไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ใช้ประโยชน์จากป่า จึงเชิญชวนประชาชนทุกคนช่วยกันรักษาป่าเอาไว้ให้นานเท่านาน เพื่อลูกเพื่อหลานไทยทุกคนเนื่องจากป่าคือชีวิต.


ทีมข่าวหนองคาย รายงาน


จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...