วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562

หนองคาย - ไทย, ลาว, เวียดนาม, กัมพูชา ผนึกกำลังปังกันป้องโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ยันไม่ติดต่อตน


        วันที่ 27 มี.ค. 62 ที่หน้าโรงแรมอัศวรรณ อ.เมือง จ.หนองคาย นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานปล่อยขบวนรถเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกรมปศุสัตว์ เพื่อออกปฏิบัติงานพ่นน้ำยาฆ่าเชื่อเพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ตามพื้นที่ชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมี นายรณชัย จิตวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมคณะให้การต้อนรับ





       อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2561 เป็นต้นมา ก็เกิดโรค ASF ในประเทศจีน มองโกเลีย และเวียดนาม ซึ่ง ณ ตอนนี้ประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ยังไม่เกิดโรคระบาดดังกล่าวขึ้น และในวันนี้มีความสำคัญมาก เพราะว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายและก็ทางอธิบดีกรมปศุสัตว์จากประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม ได้เดินทางมาประชุมเพื่อที่จะหาข้อในเรื่องของการดำเนินการ เพื่อที่จะป้องกันในภูมิภาคแห่งนี้ปลอดจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เพราะฉะนั้นความเข้มแข็งในภูมิภาค อย่างวันนี้ทางกรมปศุสัตว์  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ปล่อยขบวนคาราวานเพื่อที่จะไปดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อที่ สปป.ลาว เพราะว่าความเสี่ยงในแถบริมแม่น้ำโขง อาจจะมีความเสี่ยงกับสุกรที่เลี้ยงแบบปล่อย โดยการสนับสนุนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ซึ่งมีความเข้มแข็งมาก ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าว่าโรคนี้จะไม่เข้ามาในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันได้มีการทำคู่มืประชาสัมพันธ์ผ่านทางปศุสัตว์จังหวัดและเจ้าหน้าที่ ซึ่งโรคนี้จะคล้ายโรคอหิวาต์ธรรมดา มีอาการป่วยการตายสูง แต่ให้ท่องไว้คือ 4+1 ซึ่ง 1 ก็คือไม่ติดคน เพราะฉะนั้นไม่ต้องตระหนักว่าโรคนี้จะติดคน ที่แพร่กระจายในโซเชียลนั้นไม่จริง อันที่ 2 คือไม่มียารักษาและก็ไม่มีวัคซีน เชื้อทนทานต่อสภาพแวดล้อม และอัตราการตายสูง ซึ่งอยู่ใน 4+1 ซึ่งเกษตรกรนั้นเข้าใจ และอีกเรื่องหนึ่งก็คือเจ้าของผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่เร่งดำเนินการในเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพ ส่วนรายย่อยเราได้ดำเนินการให้มีความเข้าใจว่าโรคนี้มีความสำคัญอย่างไร และเวลาเกิดโรคนั้นมีความเสียหายอย่างไร ซึ่งรัฐบาลได้ยกระดับของโรคนี้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งทุกหน่วยงานราชการต้องมาช่วยกันเหมือนกับโรคไข้หวัดนกในอดีต แต่เนื่องจากว่าโรคนี้ไม่ใช่โรคสัตว์ติดคน จึงมีลึกดำเนินการอีกแบบหนึ่ง ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะติดเฉพาะสุกร ซึ่งประชาชนก็ทราบและเข้าใจดีอยู่แล้วว่าโรคนี้ไม่ติดคน







จังหวัดบึงกาฬ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ กลุ่มจังหวัดสบายดี (Familiarization Trip)


       จังหวัดบึงกาฬ  มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรม Familiarization Trip ดึงผู้ประกอบการเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศต่างประเทศและสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยง 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (กลุ่มจังหวัดสบายดี) ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ  ทั้งนี้กิจกรรม Familiarization Trip เป็นกิจกรรมสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง ๕ จังหวัด จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๕-๒๘ มีนาคม 2562  กิจกรรมจับคู่ธุรกิจการท่องเที่ยว (TableTop Sale)เป็นการเจรจาเพื่อส่งเสริมต่อยอดธุรกิจ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว



       วันที่ 26 มี.ค. 62 เวลา 18.00 น. นายธวัชชัย  ศรีทอง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ  โดยมี นางบำเพ็ญพร สุริยกมล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ กล่าวรายงานการจัดโครงการฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ  ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ




      นายธวัชชัย  ศรีทอง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริม สนับสนุน ประชาสัมพันธ์ ทำการตลาดท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดสบายดี  มีวัตถุประสงค์    เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติ มีชุมชนท่องเที่ยวที่น่าสนใจสามารถจัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว  วิถีวัฒนธรรมของชาวบึงกาฬที่มีเอกลักษณ์  เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่สนใจการการท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ  และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แนะนำผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และนักลงทุน รวมถึงสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงประตูชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ จังหวัดบึงกาฬ สร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยใช้ศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัตศาสตร์ ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี ตลาดจนเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นทางด้านการผลิตสินค้า OTOP และภาคเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ ก่อให้เกิดกระเเสการท่องเที่ยว การซื้อสินค้า และบริการ ทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งผลบวกให้กับการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดสบายดีเพิ่มขึ้นในภาพรวม





      สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยวจะเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร สำรวจ ทั้งหมด 4  เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1. กรุงเทพ – อุดรธานี – หนองคาย –บึงกาฬ แหล่งท่องเที่ยวนำเสนอได้แก่ วัดโพธิ์ชัย –พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต - ศรีแก้วเมล่อนฟาร์ม – ภูสิงห์ – วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) – ดูงานกลุ่มทอผ้าบ้านดงสาร อ.เซกา – คำชะโนด  เส้นทางที่ 2. เลย – หนองคาย – บึงกาฬ แหล่งท่องเที่ยวนำเสนอได้แก่ วัดอาฮงศิลาวาส – วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) – ภูสิงห์ – ไหว้พระใหญ่ วัดโพธาราม – พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต - รีแก้วเมล่อนฟาร์ม เส้นทางที่ 3. อุดรธานี – หนองคาย – บึงกาฬ  แหล่งท่องเที่ยวนำเสนอได้แก่ กลุ่มทอผ้าบ้านสะง้อ – วัดอาฮงศิลาวาส -  เจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) – ภูสิงห์ – ไหว้พระใหญ่ วัดโพธาราม –พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต – ศรีแก้วเมล่อนฟาร์ม และ เส้นทางที่  4. เวียงจันทร์ – หนองคาย – บึงกาฬ แหล่งท่องเที่ยวนำเสนอได้แก่ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต - ศรีแก้วเมล่อนฟาร์ม - ภูสิงห์ – วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) – ดูงานกลุ่มทอผ้าบ้านดงสาร     อ.เซกา – คำชะโนด





วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562

PEA หนองคาย และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) ร่วมมือกับผู้ประกอบการสายสื่อสาร จัดระเบียบสาย และอุปกรณ์สื่อสารบนเสาไฟฟ้า


       วันที่ 26 มี.ค. 62  เวลา 09.00 น.ที่บริเวณสวนสาธารณหนองถิ่น อ.เมือง จ.หนองคาย นายจิรศักดิ์  ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน จัดระเบียบสายและอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้า มีหัวหน้าส่วนราชการ,ภาคเอกชน,ผู้ประกอบการด้านสื่อสารโทรคมนาคมในพื้นที่ เข้าร่วมในพิธีเปิด




      นายบรรเจิด  บุญเปีย ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดหนองคาย (PEA หนองคาย) กล่าวว่า ด้วยสภาพความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของสายสื่อสารที่เป็นปัญหาสะสมมาเป็นเวลานานซึ่งยากต่อการแก้ไขให้เสร็จลุล่วง ซึ่งทางการไฟ้ฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาโดยตลอดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการนำสายลงใต้ดิน โดยใช้งบประมาณในการนำสายลงดินค่อนข้างสูง จึงทำได้ในพื้นที่สำคัญ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดหนองคาย ได้จัดทำแผนปฏิบัติการจัดระเบียบสายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ความรับผิดชอบ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการจัดกการสายสื่อสารให้เกิดความเป็นระเบียนเรียบร้อยอย่างเป็นระบบ เป็นการสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยส่วนรวม




      สำหรับเป้าหมายของการดำเนินการในครั้งนี้มุ่งเน้นการรื้อถอนสายและอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่ไม่ได้ใช้งาน ออกจากเสาไฟฟ้าในเส้นทางสำคัญบริเวณถนนมีชัย ตั้งแต่สี่แยกดอนแดง ถึง หน้าวัดศรีสุมังค์ รวมระยะทางกว่า 3 กม.และได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเจ้าของสายสื่อสารและเคเบิ้ลทีวีเป็นอย่างดี








วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2562

หนองคาย - เปิดหาดแม่น้ำโขงท่องเที่ยว "หาดทรายทอง" หลังน้ำโขงลดลง เกิดหาดทรายทอดแนวยาวกว่า 500 เมตร ชาวบ้านเริ่มตั้งซุ้มอาหารรองรับนักท่องเที่ยว คาดเงินสะพัดหลายล้านบาท พร้อมเปิดหาดเป็นทางการ 6 เมษายนนี้่


     เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 จากที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคายลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดหาดทรายริมแม่น้ำโขง โดยเฉพาะที่หาดทรายทอง หมู่ 11 บ้านหัวทราย ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เกิดหาดทรายยาวกว่า 500 เมตร กลายเป็นหาดทรายทะเลน้ำจืดขนาดใหญ่ ซึ่งได้มีประชาชนหนีร้อนลงเล่นน้ำที่ชายหาดเป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านในพื้นที่ต่างได้ทำซุ้มจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมนำห่วงยาง และอุปกรณ์เล่นทางน้ำมาให้เช่าบริการที่ชายหาด โดยทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้จัดทำถนนทางลงชายหาด เพื่อรองรับประชาชนที่มาท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดแห่งนี้ ซึ่งสามารถเที่ยวไปได้จนกว่าจะถึงฤดูน้ำหลาก





       ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมากในปีที่ผ่านมามีทั้งชาวไทย และชาวลาว รวมถึงชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว ณ ชายหาดแห่งนี้กันอย่างมากมาย และในปีนี้ก็เช่นเดียวกันคาดว่าในช่วงที่น้ำโขงลดระดับลงจนเกิดหาดทรายยาว และสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวตลอดเดือนเมษายนนี้ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว ที่หาดทรายทองแห่งนี้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน





      สำหรับ"หาดทรายทอง"  ตั้งอยู่หมู่ 11 บ้านหัวทราย  ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 45 กม. เป็นหาดทรายในแม่น้ำโขงซึ้งทอดยาวไปตามลำน้ำโขง สามารถมองเห็นทิวทัศน์สองฝั่งโขงและนครหลวงเวียงจันทน์ โดยคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ, นรข., ฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ อปพร. อำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ให้กับประชาชนที่มาท่องเที่ยวน้ำโขง และเล่นน้ำ เพื่อคลายร้อน ซึ่งจะมีธงสีแสดงถึงบริเวณล่องน้ำลึก เพื่อเตือนประชาชนให้เล่นน้ำในจุดที่ปลอดภัย พร้อมได้กำหนดระยะเวลาในการลงเล่นน้ำไม่เกิน 18.00 น. และขายอาหารไม่เกิน 20.00 น. และเตรียมที่จะเปิดหาดทรายทองเพื่อการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 6 เมษายนที่จะถึงนี้








จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...