วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

พบรถมอเตอร์ไซค์คนร้ายยิงกำนันตำบลผาตั้ง ทิ้งอ่างเก็บน้ำในพื้นที่อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี


จากกรณีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทำทีไปขอซื้อเครื่องของที่บ้านนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี กำนันตำบลผาตั้ง หรือ กำนันเตี้ย ที่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 6 บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย แล้วใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงขมับกำนันเตี้ยเสียชีวิตคาห้องครัว เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 3 ก.พ. 63 พ.ต.ท.ประเสริฐธรรมชัย รอง ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบรถจักรยานยนต์และหมวกกันน็อคต้องสงสัย อยู่ในหนอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ ท้ายหมู่บ้านสระคลอง หมู่ 3 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนองคาย และชุดสืบสวน โดยบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านจุดเกิดเหตุยิงกำนันกรรณิการ์ประมาณ 21 กิโลเมตร บริเวณพื้นดินริมน้ำ พบหมวกกันน็อคสีน้ำเงินแบบเต็มใบวางอยู่ ส่วนฝั่งขวาของอ่างเก็บน้ำพบรถมอเตอร์ไซค์ถูกถอดล้อทั้งสองข้างจมอยู่ในน้ำ เมื่อเจ้าหน้าที่นำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาพบว่าเป็นรถมเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟ มีกุญแจรถเสียบคาอยู่ จากที่เห็นว่าเป็นรถสีแดง ปรากฏว่าแท้จริงแล้วสีรถเป็นรถสีน้ำเงิน แต่มีการนำสีสเปรย์สีแดงฉีดพ่นทับ โดยยังคงมีสีน้ำเงินหลงเหลืออยู่ และตะกร้าหน้ารถก็ยังคงอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบริเวณเหล็กที่พักเท้าด้านหลังฝั่งซ้ายมีสีฟ้า ตรงกับที่เห็นในภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ เจ้าหน้าที่ไดเก็บไว้เป็นหลักฐานสำคัญเพื่อตรวจพิสูจน์หาความเชื่อมโยงกับคนร้าย และมั่นใจว่าเป็นรถจักรยานยนต์คันเดียวกันกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงกำนันกรรณิการ์





นายปัญญา ขวัญยืน กำนันตำบลคำด้วง กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านสระคลองโทรศัพท์แจ้งว่าพบรถมอเตอร์ไซค์ต้องสงสัยถูกถอดล้อทั้งสองข้างทิ้งไว้ในอ่างเก็บน้ำ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ เนื่องจากเห็นว่าเป็นรถผิดปกติ หากเป็นรถเสีย ยางแตก ล้อรั่ว ก็ไม่ควรถูกถอดล้อทั้งสองข้างเช่นนี้ และเมื่อมาถึงที่ก็เห็นหมวกกันน็อควางอยู่ก่อน ก็มั่นใจว่าน่าจะเป็นของคนร้ายเพราะตนติดตามดูข่าวเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดตรงกับที่คนร้ายใส่

ทั้งนี้ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เร่งไล่ล่าคนร้ายก่อเหตุยิงขมับกำนันกรรณิการ์ชีวิตมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

โครงการพัฒนาเด็กซี.ชี.เอฟ น้ำอูน จังหวัดสกลนคร จัดอบรมครู"ศิลปะเด็ก" 39 คน ในเขตพื้นที่ สพป. สกลนคร เขต 1 ในหัวข้อ "สิ่งแวดล้อมบ้านเรา"


เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา ที่ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านกุดไห อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร สำนักงานโครงการพัฒนาเด็ก ซีซี.เอฟ. น้ำอูน จังหวัดสกลนคร ภายใต้การ
สนับสนุนของมูลนิธิฯ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ จัดอบรมครู "ศิลปะเด็ก" โดยร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 โดยมีนายถนอม แพงคำฮัก ประธานศูนย์อำนวยการเครือข่ายกุดบาก เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม มีครูเข้าร่วมทั้งหมด 39 คน จาก 24 โรงเรียนในพื้นที่การดำเนินการของ โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ น้ำอูน จังหวัดสกลคร ซึ่งอยู่ในอำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอกุดบาก อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร





โครงการ "ศิลปะเด็ก" เป็นหนึ่งในโครงการที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ เพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะด้านศิลปะของเด็กและเยาวชน โดยเน้นประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นขยะ ดิน น้ำ ป๋าไม้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิ่งแวดล้อม กิจกรรมแรกคือ การอบรมครู เพื่อให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะศิลปะเด็ก, กิจกรรมที่สองคือ ครูจะไปสอนเด็กนักเรียนที่โรงเรียนอย่างต่อเนื่อง และกิจกรรมที่สามคือ การประกวดวาดภาพของเด็กและเยาวชน ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ในประเด็น "สิ่งแวดล้อมบ้านเรา" ผลงานวาดภาพที่ได้จะนำไปประกวดระดับจังหวัด และจะนำไปประกวดในระดับต่อไป





สำหรับกิจกรรมอบรมครู "ศิลปะเด็ก" คือการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านศิลปะของครูให้ดีขึ้น และนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้กับการเรียนการสอนในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะครูที่มีความจำเป็นต้องสอนศิลปะ แต่ไม่จบด้านศิลปะมา เป้าหมายที่สำคัญคือ ครูนำความรู้และทักษะศิลปะที่เป็นพื้นฐานของการศึกษา ถ้าครูมีความรู้ มีทักษะแล้ว จะก่อให้เกิดความมั่นใจ นำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนากระบวนการเรียน การสอนของครู ซึ่งจะส่งผลให้เด็กได้รับการพัฒนาทักษะด้านศิลปะไปด้วย รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจให้กับครูที่สอนศิลปะเด็ก การอบรมนั้นเป็นการฝึกทักษะด้านศิลปะพื้นฐาน องค์ประกอบของการวาดภาพ และการใช้สีชอล์ค โดยมีวิทยากรในการฝึกอบรม คือ นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูแดง บ้านทุ่งศิลป์ไทย) อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย และนายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูเบิ้ม เติมศิลป็) ทั้งนี้ครูจะได้เรียนรู้การตีโจทย์การวาดภาพ การเขียนองค์ประกอบของภาพที่ต้องมีจุดเด่น จุดรอง จุดที่เป็นองค์ประกอบของภาพ รวมทั้งเทคนิคพื้นฐานศิลปะเต็ก ทั้งการระบายสี การไล่สี การจุด การลากเส้น การขีด เป็นต้น




ผลงานก่อนและหลังการอบรมภาพที่ครูวาดภาพแตกต่างอย่างเห็นชัดเจน ก่อนเริ่มอบรม ครูแดงและครูเบิ้ม ให้ผู้เข้าร่วมอบรมวาดภาพคน และภาพทะเล ผลที่ได้คือ ครูจำนวน 38 คนจาก 39 คนที่เข้าร่วมอบรมวาดภาพโดยเขียนทะเล มีภูเขา ท้องฟ้า มีอีกาบิน มีต้นมะพร้าว ดวงอาทิตย์ ซึ่งบ่งบอกว่าครูยังมีความคิดแบบเดิมๆ ที่เคยถูกสอนมาในเรื่องศิลปะ ที่ต้องมีภูเขา ตันมะพร้าว อีกา ดวงอาทิตย์ ไม่มีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ คะแนนประเมินก่อนการเรียนรู้จึงเป็นศูนย์คะแนน




หลังการอบรม ครูที่เข้าอบรมได้ปรับความคิดใหม่ วาดภาพตามที่ตนเองสนใจ มีจินตนาการ เช่น ภาพดอกไม้ ปลาที่มีปลาตัวใหญ่ ตัวเล็กในภาพ ภาพประเพณีลอยกระทง ทำบุญตักบาตร ภาพต้นไม้ ฯลฯ ประกอบกับการนำเทคนิคการระบายสี ไล่สีเข้ม กลาง อ่อน มาระบายบนภาพ ทำให้ผลงานของภาพวาดมีสีสรรสวยงาม ครูจำนวน 33 คน ผ่านการประเมินการวาดภาพหลังเรียนได้คะแนน 97, 98, 99 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน มีครู จำนวน 6 คน ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน และครูยังได้เรียนรู้วิธีการพูด สร้างแรงจูงใจ สร้างขวัญกำลังใจให้เด็กนักเรียน รักและเรียนรู้ศิลปะอย่างดี




การอบรมครั้งนี้แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ครูนำความรู้และทักษะด้านศิลปะไปสอนนักเรียนในชั้นเรียนของครูอย่างต่อเนื่อง และก็คาดหวังว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเห็นน้องๆ นักเรียนแต่ละโรงเรียนในพื้นที่โครงการพัฒนาเด็ก ซี.เอฟ.น้ำอูน จังหวัดสกลนคร มาร่วมกันวาดภาพประกวดศิลปะเด็ก ในประเด็น "สิ่งแวดล้อมบ้านเรา" ซึ่งจะทำให้เด็กและเยาวชน จะได้แสดงความรู้สึก ความคิด จิตนาการผ่านการวาดระบายสี










โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ซ้อมแผนรองรับสถานการณ์ เหตุการณ์การระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019


วันที่ 3 ก.พ. 63 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายแพทย์วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ร่วมกับนายแพทย์เจษฎาภรณ์ จันทะคาม อายุรแพทย์ หัวหน้าป้องกันและควบคุมโรคติดต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อและคณะ, ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว ได้ดำเนินการจัดให้มีการซักซ้อมแผนการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์/เหตุการณ์ภาวะฉุกเฉินการระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 (Novel Coronavirus 2019) ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เพื่อเป็นการซ้อมแผนเตรียมความพร้อมการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ชุดทีมแพทย์ฉุกเฉิน เกิดศักยภาพและสามารถเตรียมเครื่องมือในการป้องกันและตอบโต้ภาวะฉุกเฉินจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ





โดยได้จำลองสถานการณ์พบผู้ป่วยและญาติที่มีความเสี่ยง 5 ราย โดยมีมาตรการป้องกันคัดกรองเบื้องต้นจากทีมแพทย์ฉุกเฉิน เตรียมหน่วยบริการ มีห้องแยกโรค การเตรียมอุปกรณ์ ทั้งชุดกันเชื้อโรค หน้ากากอนามัยมีพร้อมสำหรับบุคลากร การป้องกันในระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ และมีการอบรมให้ความรู้สำหรับบุคลากรของโรงพยาบาล

สำหรับ โคโรน่าไวรัส หรือ coronavirus (CoV) คือเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบติดเชื้อ รวมไปทั้งโรคปอดอักเสบรุนแรง พบได้ทั้งในสัตว์และในคน ที่กำลังระบาดอยู่ในช่วงนี้ เป็นสายพันธุ์ใหม่ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งคาดกันว่าแม้จะมีความรุนแรงไม่เท่าสายพันธุ์ก่อนๆ แต่ก็มีสิทธิที่เชื้อไวรัสจะพัฒนาตัวเองจนมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ดังนั้นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด






วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

คนร้ายบุกเดี่ยวยิงกำนันตำบลผาตั้งดับคาห้องครัว คาดปมที่ดินส.ป.ก.ของนายทุนกับชาวบ้าน



วันที่ 1 ก.พ. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังคม รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิง นางกรรณิการ์ วงค์ศิริ หรือกำนันกรรณิการ์ตำบลผาตั้ง อายุ 51 ปี ที่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 6 บ้านดงต้อง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ ครึ่งปูน และเปิดเป็นร้านขายของชำและที่ทำการกำนันตำบลผาตั้ง พบศพกำนันกรรณิการ์นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในห้องครัว ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มม. ที่บริเวณศรีษะเหนือคิ้วด้านขวา 1 นัดกระสุนฝังใน ใกล้กันยังพบลูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่กับพื้นบ้าน 1 นัดและปลอกกระสุนปืนอีก 1 ปลอก




จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้าน พบคนร้ายจำนวน 1 คน ขับรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง วงล้อสีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงทหารสีเขียวขี้ม้า สวมหมวกนิรภัยสีฟ้า ทำทีมาซื้อของในร้าน จากนั้นพอสบโอกาสก็เดินเข้าไปห้องครัว ชักปืนยิงศรีษะกำนันกรรณิการ์ที่กำลังอยู่หน้าตู้เย็นบริเวณห้องครัว 1 นัด ทำให้กำนันเสียชีวิตทันที ก่อนจะเดินไปขับมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปทางบ้านลาด ตำบลคำด้วง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งกระสุนปืนที่พบเห็นบนพื้นคาดว่าคนร้ายน่าจะทำปืนลั่น จึงมีลูกกระสุนปืนและปลอกตกอยู่

สอบถามนายพิเดช วงค์ศิริ ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนและหลานสาวได้ออกไปให้อาหารหมูที่ฟาร์ม พอกลับมาบ้านก็ทราบว่าภรรยาตนได้ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเสียแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.ของนายทุนซึ่งเป็นชาวจังหวัดสมุทรปราการ ที่ออกทับถนนเข้าออกของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเข้าไปทำมาหากินไม่ได้ กำนันกรรณิการ์จึงทำเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำการรังวัดใหม่ เคยไปเจรจาหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ทั้งๆที่ถนนดังกล่าวนั้นมีมาก่อนจะเป็นที่ ส.ป.ก.ของนายทุน และกำนันยังเคยถูกนายทุนคนนี้ต่อว่าหลายครั้ง หาว่าเอาเปรียบบ้าง และห้ามมายุ่งกับเรื่องนี้เป็นอันขาด ต่อมาได้พาชาวบ้านไปปรับปรุงถนนที่เป็นปัญหา ทำให้นายทุนคนดังกล่าวไม่พอใจอย่างมาก กล่าวหาว่ากำนันพาขาวบ้านไปบุกลุกที่เขา และมีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอด ส่วนเรื่องหน้าที่การงานนั้นไม่น่าจะเป็นประเด็นถึงคั้นต้องฆ่ากัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...