อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพผู้ป่วยและยากไร้ และออกบริการทำบัตรประชาชนผู้ป่วยติดเตียง

วันที่ 10 พ.ย. 63 นายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโสฯ รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พร้อมด้วยนายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และแพทย์ประจำตำบล ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับสมบูรณ์ ทุมพร อยู่บ้านเลขที่ 99 บ.ไทยเจริญ หมู่ 4 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นผู้ป่วยและยากไร้ ด้อยโอกาสทางสังคม จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนและบัตรฯ ออกบริการทำบัตรประชาชนให้กับนายสังข์วาดย์ ยั่งยืน อยู่บ้านเลขที่ 51 บ.โนนสง่า หมู่ 7 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง พิการการเคลื่อนไหว และพิการทางสมอง

สำหรับการลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนผู้ป่วยและยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และออกบริการทำบัตรประชาชนผู้ป่วยติดบ้าน/ติดเตียง ครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ในการทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของประชาชน โดยให้แต่ละอำเภอต้องหมั่นออกไปตรวจเยี่ยมดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเป็นประจำ เพื่อรับทราบข้อมูลในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ประการสำคัญจะทำให้ประชาชนได้รับรู้ว่าส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐมิได้ทอดทิ้งหรือเพิกเฉยต่อการเอาใจใส่ดูแลประชาชนแต่อย่างใด และเพื่อขับเคลื่อนนโยบายจังหวัดหนองคาย ด้านคุณภาพชีวิตที่ดี ของประชาชนในพื้นที่ อีกด้วย

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาท่าบ่อ ลงพื้นที่ช่วยพ่อค้าแม่ค้า รับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" มีร้านค้าย่อยทั่วไปเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 80 ร้านค้า

วันที่ 5 พ.ย. 63 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นางสาวพิมนพันธ์ น้อยขำหิน ผจก.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาท่าบ่อ ได้จัดเจ้าหน้าที่ของธนาคารฯ ลงพื้นที่เปิดรับสมัครร้านค้าย่อยทั่วไปเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในชุมชน ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าได้รับความสนใจจากร้านค้าย่อยทั่วไปเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลพบว่ามีผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งอำเภอโพธิ์ตากและอำเภอท่าบ่อสนใจเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 80 ร้านค้า และขณะนี้มีร้านค้าทะยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องได้รับการรับรองจากผู้ใหญ่บ้านหรือประธานชุมชน และต้องเป็นร้านค้ารายย่อยทั่วไปเท่านั้น ที่ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อให้ร้านค้ารายย่อยได้ประโยชน์มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อป้องกันข้อครหาว่า เม็ดเงินโครงการจะไหลไปร้านค้าขนาดใหญ่หรือร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ ดังนั้น ร้านค้าขนาดใหญ่และสะดวกซื้อจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ สำหรับการชำระเงินนั้นจะจ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ช่อง G-Wallet กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เริ่มใช้สิทธิ 23 ต.ค -31 ธ.ค. 2563 นี้

ขนมาอีกล็อตใหญ่! ยาบ้า 1,790,000 เม็ด ไอซ์ 19 กก. จนท.สถานีเรือศรีเชียงใหม่ นรข.เขตหนองคาย บุกยึดได้ที่ดอนเขียว บ.ปากมาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มูลค่ากว่า 189 ล้านบาท ส่วนแก๊งค้ายา 4 คนหลบหนีได้อย่างหวุดหวิด

วันที่ 2 พ.ย. 63 ที่กองบังคับการ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย (นรข.เขตหนองคาย) อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย น.อ.(พ) วรัท โกพลรัตน์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย, นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.อ.ณรงค์ สวนแก้ว รองผู้บังคับบัญชากองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(รอง ผบ.กกล.ฯ), พ.อ.จักรพงษ์  โพธิ์นาเเค รองเสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,  พ.อ.เรวัฒ ธรรมจิรเดช รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 (ร.13), นายภิญโญ โฆสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.ภาค 4, น.ท. สมบัติ แสงชัยภูมิ หัวหน้าสถานนีเรือศรีเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการตรวจยึดยาบ้า 1,790,000  เม็ด ยาไอซ์ 19 กิโลกรัม พร้อมรถกระบะ 4 ประตู ยี่ฮ่อเชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กข 1805 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน มูลค่ารวมกว่า 189 ล้านบาท ได้ที่บริเวณดอนเขียว บ.ปากมาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

ในการตรวจยึดครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ต.ค.63 เวลา 17.00 น. น.อ.(พ) วรัท โกพลรัตน์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก เข้ามาในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จึงได้สั่งการให้ น.ท.สมบัติ แสงชัยภูมิ หัวหน้าสถานีเรือศรีเชียงใหม่ จัดชุดวางกำลังในพื้นที่เป้าหมายบริเวณดังกล่าว เพื่อสกัดกั้นและจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด กระทั่งเวลา 20.30 น. ชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ได้ตรวจพบการเคลื่อนไหวผิดปกติในแม่น้ำโขง มีเรือกีบเผลายาว จำนวน 1 ลำพร้อมชาย 4 คน แล่นออกมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน  ข้ามแม่น้ำโขงตรงมายังฝั่งประเทศไทย ชุดปฏิบัติการจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมเรือลำนั้นอย่างไกล้ชิด และเรือได้แล่นเข้าจอดริมฝั่ง จากนั้นกลุ่มคนที่นั่งมากับเรือได้ลำเลียงวัตถุต้องสงสัยขึ้นฝั่ง และในเวลาต่อเนื่องกันได้มีรถยนต์กระบะวิ่งเข้ามาจอดไกล้กับจุดที่เรือจอดและกลุ่มชายทั้ง 4 คนได้นำวัตถุต้องสงสัยขึ้นรถยนต์กระบะ 4 ประตู จนท.จึงได้แสดงตัวและขอเข้าตรวจค้น ในระหว่างนั้นกลุ่มคนดังกล่าวได้อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว  จนท.เกรงว่าจะมีอันตรายจึงไม่ได้ติดตามไป

ตรวจสอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง พบว่ามีวัตถุต้องสงสัย จำนวน 10 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดทุกกระสอบ จึงทำการตรวจยืดของกลาง และได้นำกลับมาที่ นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือศรีเชียงใหม่) เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พบเป็นยาบ้า จำนวน 1,790,000 เม็ด, ยาไอซ์ จำนวน 19 กิโลกรัม  จนท.จึงได้จัดทำบันทึกการตรวจยึดและลงบันทึกการจับกุม พร้อมนำของกลางทั้งหมดส่ง สภ.ท่าบ่อ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ร.ร.ร่วมมิตรวิทยา จัดทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา ในโอกาสครบรอบ 49 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียน เพื่อสมทบทุนสร้างโรงอาหารให้นักเรียนและพัฒนาการศึกษา

วันที่ 1 พ.ย. 63 ที่โรงเรียนร่วมมิตรวิทยา ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางเพชรา พิมพ์ศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนร่วมมิตรวิทยา พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แขกผู้มีเกียรติ ประชาชน ตลอดจนศิษย์เก่าของโรงเรียน ร่วมกันทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา 

โดยในช่วงเช้าได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารเช้าและถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ จำนวน 12 รูป พร้อมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นการร่วมกันทำบุญกุศลเนื่องในวาระครบรอบ 49 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียนร่วมมิตรวิทยา จากนั้นได้ทำการแห่กองกฐินจากบ้านนาข่า หมู่ 6 ต.นาข่า นำมาประกอบพิธีทอดถวาย ณ หอประชุมโรงเรียนฯ เพื่อสมทบทุนสร้างโรงอาหารให้กับนักเรียน ซึ่งโรงเรียนร่วมมิตรวิทยา เป็นโรงเรียนขยายโอกาส ทำการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียนทั้งสิ้นจำนวน 160 คน ซึ่งโรงเรียนได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารโรงอาหารจำนวน 1 หลัง แต่มีขนาดเล็กเกินไป จึงจำเป็นต้องสร้างเพิ่มเติม อีกทั้งยังเป็นการสมทบทุนเพื่อพัฒนาการศึกษา อีกด้วย

สำหรับโรงเรียนร่วมมิตรวิทยา เป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 เริ่มเปิดสอนครั้งแรกเมื่อ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2514 โดยใช้ที่สาธารณะ  ซึ่งเป็นค่ายเสรีไทยเดิมเป็นที่ก่อสร้าง เพราะเป็นศูนย์กลางของตำบลนาข่า ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านส้มโฮง ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 74 ไร่  2 งาน 25  ตารางวา ซึ่งโรงเรียนร่วมมิตรวิทยากำหนดขึ้นมาโดยการรวบรวมโรงเรียน 3 โรงเรียน  คือ โรงเรียนบ้านนาข่า, โรงเรียนบ้านโพนตาล และโรงเรียนบ้านกวดเข้ามาด้วยกัน เพื่อให้เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ โดยมีเขตบริการจำนวน 7 หมู่บ้านในตำบลนาข่า งบประมาณครั้งแรกได้รับจากสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ป. 1 ฉ งบประมาณจำนวน   120,000  บาท  ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2514 ได้ทำพิธีเปิดและได้รับอนุญาตตั้งชื่อว่าโรงเรียนร่วมมิตรวิทยา เพื่อเป็นอนุสรณ์ความร่วมมือร่วมใจให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมีนายคำดี พรหมโสภา เป็นครูใหญ่ครั้งแรก ในปี 2530 สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดหนองคาย ได้แยกโรงเรียนไปตั้งที่โรงเรียนบ้านกวดเดิม ให้ชื่อว่า "โรงเรียนบ้านกวดโคกสว่าง" เนื่องจากในฤดูฝนการเดินทางมาเรียนของนักเรียนค่อนข้างจะลำบาก โดยแยกนักเรียน หมู่  1 บ้านกวดและหมู่ 2  บ้านโคกสว่างไปเรียน ในปี 2531 นายณรงค์ศักดิ์ พันชะโก มาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนร่วมมิตรวิทยา ในปี 2537 โรงเรียนร่วมมิตรวิทยาได้เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นตามโครงการขยายโอกาสทางการศึกษา ปี 2548 นายภิญโญ ศรีภูธร มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ในปี 2549 นายคำดี  จันทะเกษ มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ปัจจุบันมีนางเพชรา พิมพ์ศรี มาดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนฯ