วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

สุดแซ่บ! แข่งขันส้มตำลีลา งาน“ประเพณีเบิ่งเวียงเคียงโขง สืบสานตำนานเมืองพานพร้าว 489 ปี 66 ปี ศรีเชียงใหม่” ประจำปี 2566

วันที่ 23 ก.พ. 2566 เวลา 16.00 น. ที่ ลานวัฒนธรรมเบิ่งเวียงริมแม่น้ำโขง หมู่ 2 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย  ว่าที่ร้อยตรีนครชัย แสงมณี นายอำเภอศรีเชียงใหม่ , นายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอาวุโสฯ พร้อมส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รัฐวิสาหกิจ เอกชน ชมรม พ่อค้าและประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดงาน“ประเพณีเบิ่งเวียงเคียงโขง สืบสานตำนานเมืองพานพร้าว 489 ปี 66 ปี ศรีเชียงใหม่” ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการสีบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้ศรีเชียงใหม่ตลอดไป และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วได้รู้จักตำนานศรีเชียงใหม่ อีกทั้งเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจ ที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกรสินค้า OTOP ส่งเสริมอาชีพทางด้านเกษตรกรรม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นแหล่งพัก แวะเที่ยวชมอำเภอศรีเชียงใหม่




โดยกิจกรรมในวันแรก เป็นการแข่งขัน "ส้มตำลีลา" ที่สุดสนุก เต้นกระจายทั้ง 4 ทีมจาก 4 ตำบล บอกว่ามาพร้อมกับลีลาการตำที่ไม่ธรรมดา เพราะคนตำไปเต้นไปพร้อมกับจังหวะเสียงดนตรี เป็นการเรียกจุดสนใจให้กับคนมาร่วมชม ร่วมเชียร์ แม้แต่คณะกรรมการก็อดใจไม่ไหว ต้องโยกตัวไปตามจังหวะเพลงไปด้วยอย่างสนุกสนาน เมื่อเต้นไปกว่า 5 นาที การแข่งขันก็สิ้นสุดลง พร้อมกับหน้าตาที่สวยงามของส้มตำลีลา โดยผลการแข่งขันปรากฎว่า ทีมที่ชนะใจกรรมการ ทั้งรสขาติและลีลาในการตำ เป็นทีมจากชมรมบ้านพานพร้าว ต.พานพร้าว  , อันดับ 2 เป็นทีมจาก สามสาวพระบาทซิตี้ ต.พระพุทธบาท , ทีมอันดับ 3 เป็นทีมจาก วิสาหกิจพ่อเสือดงบัง ต.หนองปลาปาก และทีมอันดับ 4 เป็นทีมจาก บ้านหม้อแซ่บเวอร์ ต.บ้านหม้อ รับเงินรางวัล 4,000 , 2,500 , 2,000 และ 1,000 บาทตามลำดับ



นอกจากนี้ภายในงานยังมีการประกวดผลผลิตทางการเกษตร , การประกวดคู่ขวัญแม่ลูกผูกพันธ์ , รำบวงสรวงเจ้าแม่สองนาง ,  การแสดงตำนานเมืองพานพร้าว 489 ปี (เจ้าแม่สองนาง) , งานแสดงสินค้า OTOP  และการแสดงบนเวทีของเด็กนักเรียนในพื้นที่ โดยงานกำหนดจัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2566













วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ภาควิชาออร์โธปีดิกส์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จัดโครงการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบส่องกล้องเฉลิมพระเกียรติ ประจำปีงบประมาณ 2566

วันที่ 22 ก.พ.2566 ที่ห้องประชุมอิสานฮอลล์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายแพทย์ ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบส่องกล้องเฉลิมพระเกียรติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ของภาควิชาออร์โธปีดิกส์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 23 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 





พญ.ฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวว่า ถึงแม้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จะปรับสถานะเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาดกลางได้ไม่นาน แต่ก็เป็นที่ทราบกันว่า มีศักยภาพสูงในด้านของการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เป็นระดับต้น ๆ ของประเทศไทย และยกระดับเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการส่องกล้องและผ่าตัดด้วยกล้องในภาคอิสานตอนบน





ในสาขาออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ได้เริ่มการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบส่องกล้อง มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 นับเป็นโรงพยาบาลแห่งแรก ๆ ของประเทศไทย จนปัจจุบันได้ทำการผ่าตัดไปแล้วถึง 623 ราย ผลสำเร็จของการผ่าตัดเป็นไปอย่างดี มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดมีความปลอดภัย แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว  กลับไปดำรงชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบส่องกล้องนี้  จำเป็นต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์พิเศษที่มีราคาสูง ทำให้เป็นข้ิจำกัดของโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่ง  ทีมศัลยแพทย์ออร์โธปีดิกส์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อและสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง จึงได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรและสาธิตการผ่าตัด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศักยภาพให้กับศัลยแพทย์  ทั้งในและนอกประเทศมาโดยตลอด





โครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ ประกอบด้วย การบรรยายทางวิชาการและการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบส่องกล้องในห้องผ่าตัด โดยความร่วมมือกันของภาควิชาออร์โธปีดิกส์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ  สมาคมการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบแผลเล็กแห่งประเทศไทย  โรงพยาบาลรามาธิบดี  โรงพยาบาลราชวิถี  และภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้รับการสนับสนุนค่าอุปกรณ์พิเศษจากมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สาขาท่าบ่อ โดยจะเริ่มผ่าตัดในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ไปจนตลอดปีงบประมาณ 2566











วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

นายก อบต.โพนสา สั่งการให้เจ้าหน้าที่งานป้องกัน เร่งทำแนวกันไฟไหม้ป่าละเมาะลุกลามไปยังพื้นการเกษตรได้รับความเสียหาย รวมทั้งเครื่องมือการเกษตรของประชนชนบนเกาะดอนต่ำ

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2566 นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายก อบต.โพนสา ได้สั่งการใหัเจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ เข้าทำการเคลียร์พื้นที่เกาะดอนต่ำ ซึ่งเป็นเกาะกลางแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อเร่งทำแนวกันไฟป้องกันไฟไหม้ป่าละเมาะ ที่ลุกลามไปยังพื้นที่การเกษตรของประชาชนบนเกาะดอนต่ำ ซึ่งได้เกิดไฟไหม้ไปกว่า 20 - 30 ไร่ มีพืนที่การเกษตรได้รับความเสียหาย เช่น ไร่ยาสูบ รวมทั้งพืชเกษตรอื่นๆ นอกจากนี้ยังเครื่องมือการเกษตร เช่น เครื่องปั๊มน้ำ 1 เครื่อง ท่อส่งน้ำพีวีซี 20 กว่าท่อน และสิ่งของอื่นๆ ที่อยู่บนเกาะ




ล่าสุดเมื่อวานนี้ 20 ก.พ. 2566 นายก อบต.โพนสา ได้เชิญชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายมาสอบถาม ถึงเหตุการที่เกิดขึ้นดังกล่าว และได้ส่งทีมงาน นำโดยนายถาวร โคธิเสน รองนายก อบต.โพนสา พร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกัน เข้าสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในขั้นตอนต่อไป


นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายก อบต.โพนสา เปิดเผยว่า เกาะดอนต่ำเป็นเกาะกลางแม่น้ำโขง ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นเกาะของคนไทย 100% และยังขาดการพัฒนาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งอวยความสะดวก เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา ถนนในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร และสิ่งสาธารณูปโภค ทั้งที่มีพี่น้องประชาชนเข้าไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม บนเกาะดอนต่ำเป็นจำนวนมาก









วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

"กองแก้ว" จากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สานฝันตัวเองลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ชนะคู่แข่งขาดลอยแบบไม่เห็นฝุ่นถึง 174 เสียง

วันที่ 20 ก.พ. 2566 ที่ ศาลาอเนกประสงค์ ริมแม่น้ำโขง หมู่ 11 บ้านหัวทราย ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านแทนคนเดิมที่หมดวาระลง ซึ่งก็มีผู้สมัครการแข่งขันด้วยกัน 2 คน ผลปรากฏว่าชาวบ้านหัวทรายให้ความไว้วางใจ เบอร์ 1 คือ นางสาวกองแก้ว น้อยนาง ได้รับเลือกจากชาวบ้านให้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่



โดยนางสาวกองแก้ว เคยดำรงค์ตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หลังการหมดวาระลงของผู้ใหญ่บ้านคนเก่าซึ่งเป็นพี่ชาย จึงได้สานต่อจากพี่ชาย ด้วยสานฝันตัวเองที่อยากจะทำสิ่งดีงามให้บ้านเกิด ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 บ้านหัวทราย ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ ผลการนับคะแนนได้รับชัยชนะเป็นผู้ใหญ่บ้านด้วยคะแนน 262 ต่อ 88 คะแนน เรียกได้ว่าขาดลอยแบบไม่เห็นฝุ่น ถึง 174 คะแนน จากผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 372 คน คิดเป็นร้อยละ 60 จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง  621 คน บัตรเสีย 16 ใบ ไม่ประสงค์ลงคะแนน 6 ใบ ท่ามกลางชาวบ้านที่ร่วมเชียร์ให้กำลังใจ


นางสาวกองแก้ว น้อยนาง กล่าวว่า ดีใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวบ้านหัวทราย หมู่ 11 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ โดยจะทำหน้าที่ในฐานะผู้นำหมู่บ้านให้ดีที่สุด สมกับที่พี่น้องให้ความไว้วางใจ

 





จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...