ไปเอง! นายก อบต.โพนสา อาสาขับรถรับผู้ป่วยจาก รพ.หนองคาย กลับบ้าน

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2566 นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา  ได้รับการประสานจากญาติของผู้ป่วย ขอความช่วยเหลือในการรับกลับบ้าน จากโรงพยาบาลหนองคาย กลับสู่บ้านที่ หมู่ 4 บ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ทราบชื่อคือ นางสมาน โคธิเสน (ยายหมาน) อายุ 77 ปี

นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา ได้รับแจ้งจากญาติ จึงได้ออกปฏิบัติการด้วยตัวเอง และขอความอนุเคราะห์ไปยังหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลเวียงคุก (น.ส.สุดาวดี คงอริยทรัพย์ รองปลัด ทต.เวียงคุก) เพื่อช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย กลับสู่บ้านอย่างปลอดภัย และยังเป็นการให้บริการครั้งแรกของรถกู้ชีพคันใหม่ของ อบต โพนสา และเป็นโครงการให้การช่วยเหลือประชาชน ในทุกรูปแบบและลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนทุกท่าน

ทั้งนี้ อบต โพนสา มีรถกู้ชีพมาตรฐานให้บริการ รับจัดงานขาวดำ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น รถนำขบวน รถนำสวด รถขนหีบ ติดต่อได้ที่ 042-992732 สำนักงาน หรือโทรฯ 087-214 7398 นายก อบต โพนสา

ทหารพราน-ตม.หนองคาย จับแก๊งลักลอบนำรถ จยย. 2 คัน เตรียมข้ามลาว

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 66 ร.ท.พิชิตพล เคนดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2104 ฉก.ทพ.21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี นำกำลังพลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ทำการซุ่มเฝ้าตรวจริมแม่น้ำโขงบริเวณบ้านน้ำไพร หมู่ 5 ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย  เพื่อป้องกันสกัดกั้นการลักลอบการกระทำผิดกฎหมาย และการกระทำผิดเงื่อนไขตามแนวชายแดน

กระทั่งเวลา 12.30 น. พบชาย 2 คน ขับเรือแล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาจอดเทียบท่าบริเวณริมแม่น้ำโขง ห่างจากจุดซุ่มเฝ้าตรวจประมาณ 200 ม. ในเวลาต่อมาได้มีผู้ชาย 3 ราย ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ท่าทางมีพิรุท ขับขี่เข้ามายังพื้นที่ดักซุ่มของเจ้าหน้าที่ และได้ทำการช่วยยกประครองรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) และชายอีก 1 คน ยกประครองรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (สกู๊ตเตอร์) สีชมพู ลงไปยังท่าน้ำริมแม่น้ำโขง บริเวณที่เรือจอดอยู่ และยกขึ้นบนเรือ จนท.จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบเป็นชาย จำนวน 5 คน เป็นราษฎรไทย จำนวน 3 ราย มี นายฌัฐวัติ เพ็งด้วง อายุ 21 ปี ,นายพีระชัย พิลาเทพ อายุ 17 ปี ,นายวันชัย เดชสมบัติ อายุ 43 ปี ซึ่งทั้งสามคนเป็นชาว อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และราษฎร สปป.ลาว จำนวน 2 ราย มี ท้าวกอง วงสะหวัน อายุ 38 ปี , ท้าวเตียง สุมาพิม อายุ 45 ปี ทั่งสองเป็นชาวบ้านคกเพลิง เมืองสังทอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์

โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย พยายามลักลอบนำรถ จยย. ส่งออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร เมื่อกลุ่มชายดังกล่าวได้เห็นว่าเป็น จนท. ได้แสดงอาการตกใจและพยายามหลบหนี แต่ จนท.สามารถควบคุมตัวไว้ได้ก่อน และครวจยึดรถ จยย.จำนวน 2 คัน , เรือกีบพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา จำนวน 4 เครื่อง จึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ชาวหนองคายและนักท่องเที่ยว พาครอบครัวลงเล่นน้ำโขงคลายร้อนที่หาดทรายทอง หลังอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นถึง 38 องศาเซลเซียส สร้างรายได้ให้พ่อค้าแม่ค้าขายอาหาร เครื่องดื่มวันละ 5,000 - 10,000 บาท

วันที่ 26 มี.ค.66 สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดหนองคายและจังหวัดใกล้เคียง ได้พาครอบครัวลูกหลานเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนนั่งรับประทานอาหารตามซุ้ม และลงเล่นน้ำโขงคลายร้อนที่หาดทรายทอว หมู่ 11 บ้านหัสทราย ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย กันอย่างคึกคัก อีกทั้งเป็นช่วงปิดเทอมโรงเรียนต่างๆ จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำมากเป็นพิเศษ

สำหรับ “หาดทรายทอง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย  โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยว หรือกลุ่มวัยรุ่นมาเล่นน้ำจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศร้อน โดยเฉพาะช่วงบ่ายแก่ๆ จะมีประชาชนทยอยลงมาเล่นน้ำกัน ไม่ต่ำวันละ 1,000 - 2,000 คน

เฉพาะในช่วงนี้จังหวัดหนองคาย มีอุณหภูมิสูงถึง 38 องศาเซลเซียส ปริมาณนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำคลายร้อนก็เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และบริการเช่าห่วงยาง บานาน่าโบ๊ต สกูตเตอร์ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยว มีรายได้เฉลี่ยวันละ 5,000-10,000 บาท

ที่สำคัญบริเวณหาดทรายทอง ยังมีจุดเด่น คือระดับน้ำไม่ลึก ไม่เสี่ยงอันตรายจมน้ำ พื้นเป็นทรายขาว น้ำใส สะอาด น่าเล่น เหมาะสำหรับท่องเที่ยวผักผ่อน ที่สำคัญคือได้ชมธรรมชาติสองฝั่งโขง โดยเฉพาะฝั่งนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ได้อย่างใกล้ชิด โดยหาดทรายทองจะเปิดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำคลายร้อน ยาวไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ นี้

แห่ส่อง "เลขเด็ดงวดนี้" จาก "เจ้าแม่ตะเคียนทอง และต้นเปือยยักษ์ " กลับไปเสี่ยงโชค 1 เม.ย.66

วันที่ 25 ม.ค.66 ที่ ดอนป่าเปือยบ้านหม้อ หมู่ 7 ต บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พบต้นเจ้าแม่ตะเคียนทองขนาดใหญ่อยู่ 1 ต้น โดยยืนต้นอยู่ทางทิศตะวันออกของดอนป่าเปือย มีอายุกว่า 200 ปี ขนาด 2 คนโอบ สูงกว่า 20 เมตร มีการทำรั้วไม้รอบไว้ และห่มสไบสแดงพร้อมาลัย ที่ยังคงแตกกิ่งก้านร่มเย็น

ในพื้นที่ยังมี "ต้นเปือยยักษ์" อยู่ทางทิศตะวันตก ขนาด 5 คนโอบ ห่มสไบสีเหลือง แตกลำต้นออกไปทั้ง 4 ทิศ สูงกว่า 20 เมตร และยังเป็นต้นเปือยที่ใหญ่สุดของประเทศไทย มีเส้นรอบวง 5.30 เมตร

ทั้งนี้ ได้มีคณะจาก จ.นครราชสีมาและชัยภูมิ เดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติดอนป่าเปือยบ้านหม้อ ซึ่งในช่วงนี้ใกล้วันหวยออก จึงถือโอกาสขอโชคกับ "เจ้าแม่ตะเขียนทอง และต้นเปือยยักษ์" โดยมีการโอบกอด ไหว้อธิฐาน พร้อมส่องหาเลขเด็ดทั้ง 2 ต้น ปรากฏว่าเจอเลข 85 ,30 , 36 , 39 , 40 ไปเสี่ยงโชคต่อไป.

สนง.ทสจ.หนองคาย บูรณาการกับหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง ทำแนวกันไฟป้องไฟป่า ฤดูแล้ง

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2566 ที่บริเวณป่าชุมชนบ้านห้วยหินขาว ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย นายราชันย์  ซุ้นหั้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธาน เปิดโครงการทำแนวกันไฟเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันในจังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย

ทั้งนี้การทำแนวกันไฟเป็นเครื่องมือที่ง่ายที่สุดในการที่ไม่ให้ ไฟ ที่ไหม้ในผืนป่าไม่ลุกลามขยายพื้นที่สร้างความเสียหาย และเป็นแนวตั้งรับไฟป่าได้ง่าย แนวกันไฟจะสกัดเพลิงที่เกิดขึ้นจากพื้นที่ด้านหนึ่งไม่ให้ลุกลามไปอีกฟากหนึ่ง จะช่วยลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยเริ่มจากการสำรวจพื้นที่ และคาดคะเนว่าไฟจะมาจากทิศใด แล้วทำแนวกันไฟสกัดในทิศทางนั้น โดยการกำจัดเชื้อเพลิง เช่น เศษใบไม้แห้ง ใบหญ้า เนื่องจากป่าในพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง หรือป่าแบบผลัดใบ ทำให้มีเชื้อเพลิงคือใบไม้จำนวนมาก ทำให้ง่ายต่อการติดไฟ

ปัจจุบันสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองในจังหวัดหนองคาย เกิดจากการเผาในที่โล่ง การเผาป่าเพื่อเก็บหาของป่า การกำจัดวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก การจุดไฟเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ แม้จะมีการรณรงค์ไม่ไห้มีการเผา  เนื่องจากไม่มีการดำเนินการเอาผิดกับคนที่เผาอย่างจริงจัง จึงทำไห้มีการลักลอบเผาเรื่อยมา  ทำให้เกิดหมอกควัน ฝุ่นละอองและควันพิษ ลอยอยู่ในอากาศและขยายวงกว้างตามกระแสลมส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ เกิดการระคายเคือง เหนื่อยง่าย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภัยแล้ง เกิดสภาวะเรือนกระจก อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น โดยกิจกรรมมี การสาธิตการใช้อุปกรณ์และการดับไฟป่า การสาธิตการทำเสวียนรักษ์โลก การทำแนวกันไฟ โดยมี ส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดหนองคาย เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดหนองคาย นักเรียน นักศึกษา และชาวอำเภอโพธิ์ตาก เข้าร่วมกว่า 100 คน.