วันนี้ (6 ก.ย. 2561)
สถานการณ์น้ำในเขื่อนห้วยโมง ยังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฝนที่ตกสะสมลงมา
และมีมวลน้ำที่ไหลมาจาก จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู รวมทั้งลุ่มน้ำสาขาต่างๆ
ของลำห้วยโมงไหลลงมาสมทบ โดยเมื่อวานนี้ (5 ก.ย)
ระดับความจุเก็บกักอยู่ที่ 47.360 ล้าน
ลบ.ม. จากความจุเก็บกักปกติ 14.360 ล้าน
ลบ.ม. และเพิ่มขึ้นอีก 5 เซนติเมตร
จากภาวะดังกล่าวส่งผลกระทบกับพื้นที่หมู่บ้านที่อยู่รอบเขื่อนและเหนือเขื่อน
ในพื้นที่ ต.กองนาง ต.ท่าบ่อ ต.น้ำโมง ต.โพนสา และ ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลายหมู่บ้านถูกน้ำลำห้วยโมงล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนหมู่บ้าน
บ้านเรือนประชาชน วัด ฟาร์มสัตว์เลี้ยง รวมทั้งพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งสวนปาล์ม, อ้อยโรงงาน และนาข้าว ของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
เฉลี่ยชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร จากมวลน้ำที่ไหลมาในพื้นที่ดังกล่าว เข้าเขื่อนจำนวนมาก
โดยเฉพาะบ้านสามขา หมู่ 6 ต.กองนาง ถูกน้ำท้วมนาข้าวและถนนทางเข้าหมู่บ้าน
สูง 30-50 เซนติเมตร รวมทั้งบ้านอุ่มเย็น หมู่ 5 และบ้านท่าเจริญ หมู่ 9 ต.น้ำโมง ถูกน้ำท่วมขัง 50
เซนติเมตร บางจุดสูงถึง 1 เมตร
ล่าสุดวันนี้(6 ก.ย.) นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร
นายอำเภอท่าบ่อ ได้สั่งการให้ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวัง วัดระดับน้ำรายงานทุกระยะ อย่างน้อย เช้าและเย็น
วันละ 2 รอบ และแจ้งเตือนประชาชน ให้ขนย้ายสัมภาระสิ่งของ ไว้บนที่สูง และให้เตรียมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์
เพื่อป้องกันน้ำล้นเอ่อท่วมพื้นที่สำคัญ เช่น กระสอบทราย หากต้องการกำลังสนับสนุน
ให้ผู้ใหญ่บ้าน รีบประสานอำเภอด่วน ตลอด24 ชั่วโมง และให้ทุกภาคส่วน ออกสำรวจความเสียหายด้านการเกษตร
รายงานอำเภอ เพื่อรวบรวมส่งจังหวัด ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น