วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2562

หนองคาย - ยังไม่จบ! "ผู้ใหญ่บ้านขายศาลา" มีทั้งหนุน มีทั้งไล่ เจรจากันไม่มีข้อยุติ สุดท้ายให้ฝ่ายไล่กลับไปทำประชามติล่ารายชื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน ตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องถิ่น 2551 ท่าเสียงเกินกึ่งหนึ่ง "ผู้ใหญ่บ้าน"ต้องพ้นจากหน้าที่ ท่าไม่ถึงก็อยู่บริหารงานต่อค



      จากกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านนำโดยนายสมศักดิ์ มณีรัตน์ ได้ยื่นเรื่องไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าบ่อ เรื่องรื้อถอนศาลาวัดศรีชมชื่น หมู่ 6 บ้านสามขา ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ว่านางเหมรัตน์ มณีรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน ได้รื้อถอนศาลาที่ได้รับความเสียหายจากพายุ เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามข้อตกลงไว้ ทำให้วัดและชาวบ้านได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง โดยกลุ่มชาวบ้านกล่าวหาผู้ใหญ่บ้านว่า ไม่โปร่งใส ส่อไปทางทุจริต ลุแก่อำนาจ ทำประชาคมไม่ทั่วถึง จึงอยากให้ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวพ้นจากหน้าที่

      ล่าสุดวันนี้ 7 มิ.ย. 62 นายธรรมพล ไชยนาม ปลัดอำเภอฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยนายอนุพงษ์ พานารัตน์ (เจ้าพนักงานปกครอง ระดับปฏิบัติการ) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีพระครูอรุณปัญาญาธร ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ร่วมพูดคุยเพื่อประนีประนอมกันทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อยุติ

     นางเหมรัตน์ มณีรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า การรื้อศาลานั้นได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสแล้วว่า การรื้อหลังคาเป็นกิจวัตรของวัด ไม่ใช่หน้าที่ของตน แต่เจ้าอาวาสได้มอบหมายให้ตนประสานผู้รับเหมาเพื่อมาทำการรื้อถอนศาลา เมื่อได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสแล้ว ตนจึงได้ทำการประชุมกับชาวบ้านเรื่องการขายศาลาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา และในที่ประชุมก็เห็นพ้องต้องกันว่าขายศาลาเพื่อที่จะสร้างขึ้นใหม่ ตนจึงประสานผู้รับเหมามา 3 ราย ซึ่งรายแรกให้ราคา 6 หมื่นบาท รายที่สอง 7 หมื่นบาท รายที่สาม 140,000 บาท ตนจึงต่อรองขอเพิ่มให้เป็น 150,000 บาท ผู้ซื้อก็ตกลงซื้อตนจึงได้แจ้งต่อเจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสก็เร่งให้ดำเนินการเนื่องจากเอาไว้ก็ใช้งานไม่ได้ จึงได้ทำสัญญาการซื้อขาย ณ ที่การผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 62 เวลา 18.30 น. โดยผู้ซื้อมัดจำไว้ 5,000 บาท หลังจากนั้นได้มารื้อถอนเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 62 พร้อมจ่ายเงินส่วนที่เหลือ 145,000 บาท โดยตนได้มอบหมายให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและกรรมการวัดเป็นผู้เก็บเงินทั้งหมดไว้ และยังได้ทำการบันทึกรายนามผู้บริจาคสร้างศาลาที่รื้อไว้ เพราะเหตุความสำคัญต่อจิตใจของผู้บริจาคสร้างศาลาที่รื้อถอน และเงินที่ได้มายังไม่นำเข้าบัญชีธนาคาร เพราะมีความจำเป็นที่จะใช้ในการเฉพาะหน้าของวัด และการใช้จ่ายทุกครั้งก็มีใบเสร็จในการเบิกจ่ายเสมอ โดยคำชี้แจงให้การทั้งหมดก็เพื่อหาข้อยุติในการขัดแย้งว่าตนมีความผิดใด โดยฝ่ายผู้มาร้องมีแต่จะให้พิจารณาตนเองอย่างเดียว ว่าการทำงานทั้งหมดนี้ไม่โปร่งใส ซึ่งมันไม่เป็นธรรมกับตนเอง

       ด้านนายสมศักดิ์ มณีรัตน์ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ถึงอย่างไรการขายศาลาวัดศรีชมชื่น ผู้ใหญ่บ้านกระทำโดยมีชอบ ทำการประชาคมไม่ทั่วกัน ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าผู้ใหญ่บ้านคนนี้ไม่โปร่งใส ส่อไปทางทุจริต โดยอยากให้ผู้ใหญ่บ้านพ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน

      คณะที่ชาวบ้านที่สนับสนุนผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่า ผู้ใหญ่บ้านทำงานโปร่งใสทุกอย่าง เงินที่ได้มาก็มอบให้วัดหมด แล้วจะเอาเรื่องอะไรกับผู้ใหญ่บ้านอีก โดยมีการโต้เถึยงกันทั้งฝ่ายขับไล่ผู้ใหญ่บ้านกับฝ่ายสนับสนุนผู้ใหญ่ โดยไม่มีท่าทีจะจบกัน

      นายธรรมพล ไชยนาม ปลัดอำเภอท่าบ่อ จึงได้หาข้อสรุปฝ่ายที่ขับไล่ผู้ใหญ่บ้านไปทำประชามติล่ารายถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2551 มาตรา 14 (6) ซึ่งระบุว่า ผู้ใหญ่บ้านต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้ (6) เมื่อราษฎรผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 ในหมู่บ้านนั้นจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของราษฎรผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 ทั้งหมด เข้าชื่อกันขอให้ผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง ในกรณีเช่นนั้น ให้นายอำเภอสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง แต่ท่าไม่ถึงกึ่งหนึ่งของการลงประชามติ  ผู้ใหญ่บ้านก็ยังคงบริหารงานต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...