วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2562

หนองคาย - เกษตรกรสองสามีภรรยาชาวอำเภอสังคม ปลูกทุเรียนหมอนทองปลอดสารพิษ สร้างรายได้ปีละแสน


      ที่สวนเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน เลขที่ 90 บ้านไทยพัฒนา หมู่ 7 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ของนางชมชื่น ชื่นตา หรือยายชื่น อายุ 63 ปี เปิดเผยว่า ตนเองและสามี คือนายบุญมา ชื่นตา อายุ 69 ปี มีอาชีพเป็นเกษตรกร ทำการเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมานานหลายปี มีที่ดินทำกิน 40 ไร่ ทำการปลูกพืชสวนหลากหลายชนิด เช่น เงาะโรงเรียน, มังคุด, ลิ้นจี่, สัปปะรด, สตรอ และพืชสวนยืนต้นอื่นๆมากมาย กระทั่งเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตนและสามีได้นำพันธุ์ทุเรียนหมอนทองจากจังหวัดชุมพร มาทดลองปลูกที่สวนจำนวน 10 ต้น ซื้อมาต้นละ 120 บาท มาดูแลแบบเกษตรอินทรีย์ ใช้โฮโมนไข่บำรุงลำต้นและกำจัดแมลงโดยน้ำส้มควันไม้ ทำการดูแลอย่างดี ปลูกได้ 5 ปีก็เริ่มออกดอก ทิ้งไว้ 120 วันก็เช็คลูกทุเรียนโตถึง 70%หรือยัง ท่าลูกไหนได้ 70% ก็ปล่อยทิ้งไว้อีก 10-15 วันก็สามารถเก็บผลทุเรียนขายได้ ซึ่งปีแรกได้เงิน 40,000 บาท และผลผลิตที่ออกมายังได้รับคำชมจากลูกค้าว่าทุเรียนที่ปลูกมีรสชาติหวานมันอร่อย ไม่มีกลิ่นฉุน และไม่แสบร้อน ซึ่งอาจเป็นเพราะการใช้ปุ๋ยชีวภาพทำให้ดินดีอุดมสมบรูณ์ด้วยแร่ธาตุ ทำให้ลดความแสบร้อนของเนื้อทุเรียน และมีรสชาติหวานมันอร่อย เป็นที่ต้องการของลูกค้า





       หลังจากนั้นจึงได้ขยายพื้นที่ปลูกต้นทุเรียน  เพิ่มประมาณ 3 ไร่จำนวน 60 ต้น ใช้เวลาปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยวประมาณ 5-6 ปีก็ออกผล เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวจะมีลูกค้ามารับซื้อถึงในสวน บางคนก็มาสั่งจองล่วงหน้า ซึ่งตนจะติดหมายเลขไว้ที่ลูกทุเรียนบันทึกลงบัญ และขอชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าที่จองไว้เพื่อติดต่อ เมื่อได้ผลผลิตก็จะโทรบอกลูกค้าทันที โดยจะทำการตัดสดๆจากต้นส่งให้ลูกค้าที่มารับ บางคนก็ขอตัดเอง อยากสัมผัส เพราะเป็นเรื่องแปลกใหม่ในพื้นที่ แต่ละวันมีคนมาที่สวนและจองทุเรียนไม่ต่ำกว่า 50 คน ท่าเป็นเสาร์อาทิตย์มีมาไม่ต่ำกว่า 100 คน ตอนนี้มีลูกค้าเข้ามาจองแล้วกว่า 200 ลูก คาดว่าน่ามีมาจองอีก ทุเรียนที่ปลูกในระยะ 1 ปีจะผลผลิต 3 รุ่นต่อต้น ขายไปแล้ว 2 รุ่น ที่เหลืออยู่ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 แต่ละรุ่นได้ผลผลิตกว่า 200 ลูก โดยต้นที่มีอายุ 13-14 ปีจะออกผลผลิต 70-80 ลูกต่อต้น อายุ 7-8 ปีจะออกผลผลิต 40 ลูกขึ้นไปต่อต้น ขายกิโลกรัมละ 130 บาท  ซึ่งผลผลิตที่ออกมายังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยปีที่ผ่านมามีรายได้จากการขายทุเรียนถึง 1 แสนบาท คาดว่าปีนี้ก็คงได้มากกว่า 1 แสนบาท เพราะทุเรียนปีนี้ออกลูกมากกว่าปีที่ผ่านมา





    ยายชื่นยังบอกอีกว่า ตอนนี้ตนได้นำทุเรียนสายพันธุ์ชะนี จำนวน 5 ต้นและสานพันธุ์ก้านยาว จำนวน 6 ต้นมาทดลองปลูกในพื้นที่ ซึ่งปลูกมาได้  5 ปีแล้ว ทุเรียนชะนีกำลังออกดอก อีกไม่นานก็คงออกผลผลิตและเก็บขายได้ ซึ้งรายได้รวมพืชสวนอื่นๆที่ตนและสามีปลูกทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาทต่อปี และหากใครที่อยากจะปลูกทุเรียนตนยินดีที่ให้ความึรู้แก่ผู้ที่อยากปลูก หรือท่าอยากจะมาชมสวนก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 061-134-1366 (ยายชื่น)










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...