วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562

หนองคาย - หนุ่มขับสิบล่อรับจ้างส่งผักผลไม้ชาว อ.ศรีเชียงใหม่ พลิกชีวิตด้วยการลงมือปลูกเมล่อน สลับแตงโม ถั่วฝักยาวใช้น้ำน้อย ได้ผลเกินคาด ผลผลิตดี ราคางาม สร้างรายได้ปีละแสน



      ที่ โอที เมล่อนฟาร์ม บ้านพานพร้าว หมู่ 10 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของนายไพฑูรย์ ศรีจันทร์แดง อายุ 39 ปี มีอาชีพขับสิบล้อรับจ้างขนพืชผักผลไม้ทั่วภาคอีสานส่งยังกรุงเทพฯ มานานกว่า 3 ปี ได้ผันตัวเองมาทำการเกษตรกับภรรยาบนเนื้อที่ 2 ไร่ โดยทำฟาร์มปลูกเมล่อนสายพันธุ์ไทย สลับแตงโมและถั่วฝักยาว พืชใช้น้ำน้อยเหมาะกับพื้นที่ ซึ่งใช้ระยะการปลูกเพียง 3-4 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว



      นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้างขับรถสิบล้อล่องส่งพืชผักผลไม้ทั้่วภาคอีสานนำส่งตลาดในกรุงเทพฯ และนำจากกรุงเทพฯมาส่งพื้นที่อีสานมานานกว่า 3 ปี ได้เงินไม่ต่ำกว่า 40,000 บาทต่อเดือน พร้อมกับทำอาชีพเสริมด้วยนำเมล่อนมาทดลองปลูกบนพื้นที่ดินของตนเอง 1 งาน จำนวน 1,000 ต้น ลงทุนไปประมาณ 20,000 บาท โดยไปซื้อเมล็ดพันธุ์เมล่อนสายพันธุ์ไทยมาจากจังหวัดมหาสารคาม ช่วงที่ปลูกใหม่ๆตนไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ โดยลงมือทำการปลูกแบบเปิด ยังไม่ได้ทำเป็นโรงเรือน ปรากฏว่าเจ้งไม่เป็นท่า เกิดปัญหาหลายอย่าง มีทั้งโรคแมลงและโรคเชื้อรา ก็เลยตัดสินใจไปเรียนรู้โดยตรงจากเจ้าของฟาร์มที่มีประสบการณ์ที่จังหวัดมหาสารคาม เรียนอยู่ 8 เดือนก็กลับมาทำโรงเรือนขนาดกว้าง 5.46 เมตร ยาว 15 เมตร สูง 3.80 เมตร ลงทุนทำโรงเรือนไปทั้งหมด 40,000 บาท ลงมือปลูกเมล่อน 170 ต้น 3-4 เดือนผลผลิตออกมาปรากฏว่าได้ผลดี เห็นดังนั้นจึงได้ทำโรงเรือนเพิ่มอีก 3 โรงเรือน รวมเป็น 4 โรงเรือน เป็นเงินที่ลงทุนทำโรงเรือนไปทั้งหมด 140,000 บาท ทำการปลูกเมล่อนหลากหลายสายพันธุ์  ไม่ว่าจะเป็นแจ่มจันทร์, สารคามสวิส, แสนหวาน,ไข่มังกร, คลีสมี่ และปลูกแซมด้วยแตงโมสายพันธุ์ช้างแสด ปรากฏว่าได้ผลดีเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะลงมือปลูกเมล่อนแซมด้วยแตงโมที่ 1 ปีจะออกผลผลิต 3 รอบ ช่วงที่รอรอบใหม่ตนก็จะเอาถั่วฝักยาวมาปลูกที่หลุมเดิมของเมล่อนและแตงโม ทำให้ตนและครอบครัวมีรายได้ตลอดทั้งปี ตกแล้วปีละ 1 แสนบาท



      นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า สำหรับในการขาย ตนก็จะขายออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งก่อนจะเก็บผลผลิตก็จะทำการโพสขายในเฟสบุ๊คของตนเอง ชื่อว่า "โอที เมล่อนฟาร์ม" ลูกค้าก็จะสั่งจองเข้ามา ส่วนมากจะทำการขายออนไลน์หมด และยังมีลูกค้าในพื้นที่เขาจะขับรถเข้ามาซื้อที่สวน ซึ่งท่าขายออนไลน์จะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท โดยลูกค้าต้องจ่ายค่าขนส่งเอง ท่ามาซื้อที่สวนก็จะขายกิโลกรัมละ 80 บาทสำหรับพันธุ์ผิวเรียบ ท่าเป็นพันธุ์ผิวตาข่ายก็จะขายกิโลกรัมละ 100 บาท  ส่วนแต่งโมที่ปลูกเป็นสายพันธุ์ช้างแสด เนื้อสีส้ม จะขายกิโลกรัมละ 40 บาท ส่วนถั่วฝักยาวก็จะขึ้นอยู่กับราคาตลาด เพราะขายส่งตลาดใกล้บ้าน ราคาตลาดเท่าไหร่ก็ขายเท่านั่น ส่วนมากถั่วฝักยาวจะเป็นค่าใช้จ่ายรายวัน




      "การปลูกสลับพืชมันจะดีตรงที่ว่าสามารถป้องกันโรค ป้องกันแมลงต่างๆ ที่ชอบกินอาหารที่แตกต่างกันไป ที่เราปลูกสลับ แมลงก็จะไม่มีอาหารที่จะกิน แล้วจะทำให้วงจรชีวิตของเขาก็จะตัดไป หลักๆก็คือการปลูกสลับพืชจะสามารถป้องกันแมลงกับโรคพืชได้ เป็นการกำจัดวงจรเขาไปในตัว และที่หันมาปลูกก็เพราะชอบเมล่อนมันอร่อย ก็เลยทดลองปลูกแล้วมันก็ได้ผล เราก็มีความรู้สึกดีใจ ก็เลยหวังต่อยอดว่าต่อไปเราจะทำเป็นอาชีพมาเป็นงานหลัก รายได้ที่ได้มาก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้  ถึงมันจะไม่เยอะก็สามารถช่วยในการเป็นค่าใช้จ่ายได้ดีเหมือนกัน และสามารถพึ่งพาได้ โดยไม่ต้องดิ้นรนไปทำงานอยู่ที่อื่น ทำอยู่บ้านของตัวเองและครอบครัวมันก็มีความสุข"...นายไพฑูรย์ กล่าว







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...