หนองคาย – ศุลกากรหนองคาย
ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สรรพสามิตจับกุม รวบขบวนการลักลอบขนน้ำมัน 6 คัน
ทำรัฐสูญเสียรายได้กว่า 12 ล้านบาท หลังจากได้รับประสานจากภาษีลาว
วันที่ 8 มี.ค. 2561 ที่บริเวณลานรวมรถสินค้าด่านศุลกากรหนองคาย
อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายกฤษฎา
ทองธรรมชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ,นางสาวชวนชื่น เสือไพฑูรย์
ผู้อำนวยการสรรพสามิตภาคที่ 4 ร่วมกับ
ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ ปนม.ตร.สตช.เจ้าหน้าที่สรรพสามิต
ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้าน้ำมันข้ามชาติเพื่อขอยกเว้นภาษี
หลังจากเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย
เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ภาษีลาว ว่า
เกิดความผิดปกติของรถส่งน้ำมันจำนวน 6 คัน จากทั้งหมด 9 คัน และ 3 คัน
ที่สำแดงเอกสารถูกต้อง เมื่อเจ้าหน้าที่ภาษีลาวขึ้นไปตรวจสอบดูพบว่าน้ำมันได้หายไป
4 ห้อง หรือ 4 ถัง เหลือเพียง 1 ถัง ทาง สปป.ลาวจึงได้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ไทยให้ไปรับรถบรรทุกน้ำมันพร้อมคนขับดังกล่าว
ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพลาว - ไทย สปป.ลาว และนำตัวกลับมายังฝั่งไทย ทั้งนี้จังหวัดหนองคายเคยจับกุมมาแล้วเมื่อ
8 เดือนที่ผ่านมา การกระทำดังกล่าวทำกันเป็นขบวนการ
ด้าน นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่
2 กล่าวว่า การจับกุมน้ำมันที่สำแดงเท็จในการส่งออกที่สำแดงไว้นั้น จำนวน 245,000 ลิตร
แต่ส่งออกจริง 45,000 ลิตร ทำให้น้ำมันขาดหายไป 200,000 ลิตร
ทำให้รัฐเสียประโยชน์จากการที่ต้องยกเว้นภาษี และการขอคืนภาษีสรรพสามิตซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายด้านภาษีสรรพสามิตรวมมูลค่ากว่า
12 ล้านบาท และมีการสำแดงเป็นน้ำมันเบนซิน
แต่กลายเป็นน้ำมันดีเซล ซึ่งรถบรรทุกน้ำมันมีอยู่ 5 ช่อง น้ำมันหายไป 4 ช่อง
เหลือน้ำมันอยู่ 1 ช่อง โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินหายไปเกือบหมด
จากหลักหลายแสนลิตรเหลืออยู่เพียงหลักพันลิตรเท่านั้น ในการปราบปรามการทุจริตในการส่งออกนั้น
กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต ได้ทำตามนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ส่วนพวกที่ต้องการทุจริต
แสวงหาผลประโยชน์โดยการโกงภาษีรัฐ ด้วยวิธีการขอยกเว้นภาษี หรือขอคืนภาษีนั้น
ทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาล
เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถบรรทุกน้ำมันทั้ง 6
คัน พร้อมน้ำมันดีเชลของกลาง ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 และ พ.ร.บ.สรรพสามิต 2560 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนติดตามหาข้อเท็จจริงในครั้งนี้ต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น